หากจะพูดถึงซีรีส์ที่มาแรงที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงเวลานี้ คงหนีไม่พ้น sweet home ซีรีส์สัญชาติเกาหลีที่พูดเรื่องของคนที่กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด และออกฆ่าคนที่เป็นคนที่ยังไม่ได้กลายร่าง แค่ฟังดูก็น่าสนุกแล้ว แต่จริง ๆ แล้วเรื่องนี้แฝงอะไรไปบ้าง
Sweet home ในฉบับซีรีส์นี้ถูกสร้างมาจากการ์ตูนใน webtoon ที่ได้รับความนิยมและมีผู้ติดตามสูงถึง 4แสนคน เมื่อมาทำในรูปแบบของซีรีส์แล้วหลายคนคงคาดหวัง และหวังให้ถอดแบบออกมาเหมือนการ์ตูน แต่ก็มีผิดหวังกันไปมากมายอยู่ แต่ในบทความชิ้นนี้จะมาขอพูดในประเด็นที่ลึกไปกว่าสิ่งที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตา แต่การเข้าถึงจิตใจของตัวละคร
เมื่อสัตว์ประหลาดที่แท้จริงคือด้านมืดในจิตใจของคุณเอง…
ในแต่ละวันเมื่อเราประสบพบเจอกับปัญหาอะไรก็ตาม เรามักเก็บความรู้สึกนั้นเอาไว้ และกลับมาคิดมาก หรือนอนร้องไห้คนเดียวในบ้าน และเมื่อคุณเก็บมันไว้มาก ๆ และสะสมไว้นาน ๆ เมื่อถึงวันนึงที่มันระเบิดออกมา คุณจะรับมือกับมันยังไง? sweet home เล่าปัญหาของตัวละครทุกตัวที่ประสบพบเจอ และอยากจะจัดการกับปัญหาเหล่านั้น ถ้าคุณรับมือกับมันได้ คุณก็จะมีชีวิตรอดต่อไป แต่ถ้าคุณรับมือกับมันไม่ได้ คุณจะเลือกทางไหนระหว่างฆ่าตัวตาย กับกลายเป็นสัตว์ประหลาดฆ่าทุกคนที่ขวางหน้า
Sweet home ชวนคนดูขบคิดไปกับตัวละคร และกลับมาคิดถึงตัวเอง เราจะแก้ปัญหาเรายังไง หรือเราจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดและฆ่าพวกที่แกล้งเราดี “ฮยอนซู” ตัวละครเอกของเรื่อง คือหนึ่งคนที่พร้อมจะกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดได้ทุกเมื่อ จากเด็กร่าเริงสดใสที่มักโดนกลั่นแกล้ง ทำร้ายร่างกาย ถูกเพื่อนเลิกคบ และการมีปัญหาครอบครัว ส่งผลให้เขากลายเป็นเด็กเก็บกดและเลือกจะจบชีวิตของตนเอง แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งโลกกลับมีบางสิ่งบางอย่างแปลกไป และคนทุกคนกำลังจะกลายเป็นสัตว์ประหลาด การต่อสู้กับตนเองจึงเกิดขึ้น
ซีรีส์ค่อย ๆ เปิดเผยบาดแผลในใจของฮยอนซูที่เขาต้องต่อสู้ และอดทนกับปัญหาเหล่านั้น ก่อนที่จะกลายเป็นสัตว์ประหลาด ซีรีส์ทำให้เราเห็นการเยียวยาจิตใจของฮยอนซูผ่านตัวละคร “อึนยู” ตั้งแต่ในวันที่เขาตั้งใจจะฆ่าตัวตายแต่กลับตกหลุมรักอึนยู และเฝ้ามองเธอบนดาดฟ้า และมาถึงช่วงเวลาที่ฮยอนซูออกไปทำภารกิจต่าง ๆ ให้กับคนอื่นในอพาร์ทเม้นต์โดยไม่เคยปริปากบอกว่าตัวเองเหนื่อย หรือเจ็บเพียงใด มีอึนยูที่เข้ามาเตือนสติว่า “ถ้าเจ็บก็อย่าเก็บไว้ บอกคนอื่นไปบ้างว่าตัวเองเจ็บ” (คำพูดอาจไม่ตรงเป๊ะ แต่ความหมายแบบนี้แหละ) ประโยคนี้คือคำสำหรับการเยียวยาผู้ป่วยภาวะซึมเศร้าหรือมีความต้องการที่จะฆ่าตัวตาย การหลอกตัวเอง ไม่ยอมรับความจริง ยังรู้สึกผิดกับเหตุการณ์นั้น ๆ สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ภาวะซึมเศร้ารุนแรงมากขึ้น แต่การยืดอกและเผชิญความจริงต่างหากที่จะทำให้เรายอมรับ เข้าใจ และใช้ชีวิตต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น
นอกจากนี้ตัวละครอย่างคุณป้าที่เข็นรถเข็นเด็ก กับปมในใจเรื่องลูกที่ถูกรถชนตายไปนานแล้ว แต่ยังไม่ยอมรับความจริงเรื่องนั้น ความเจ็บปวดในจิตใจนี้ส่งผลให้เธอกลายเป็นสัตว์ประหลาดในที่สุด แต่เธอก็ไม่ใช่สัตว์ประหลาดประเภทที่จะทำร้ายใคร เป็นเพียงสัตว์ประหลาดที่อยู่ภายในครรภ์ เปรียบเสมือนเธอได้กลับไปกอดลูกในท้องของเธออีกครั้งหนึ่ง
PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder) ซึ่งเป็นสภาวะที่ร่างกายยังคงมีอาการตอบสนอง เสมือนว่ายังอยู่ในเหตุการณ์รุนแรง แม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะผ่านไปแล้วก็ตาม ซีรีส์หยิบยกประเด็นของสภาวะดังกล่าวมาเป็นจุดหลักสำคัญของการกลายเป็นสัตว์ประหลาด ในบทความชิ้นหนึ่งของเว็ปไซต์ istrong.org ได้พูดถึงอาการของผู้ตกอยู่ในสภาวะดังกล่าวไว้ว่า
ในทางจิตวิทยาบอกไว้ว่า อาการที่ชี้ชัดว่าเราเป็น PTSD มีด้วยกัน 4 อาการ คือ
1. เห็นภาพหลอนของเหตุการณ์ร้ายแรงบ่อยครั้ง หรือฝันถึงเหตุการณ์ร้ายซ้ำ ๆ ทุกคืน
2. เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ร้ายนั้นจะมีอาการตื่นตัว ควบคุมตัวเองไม่ได้ หงุดหงิด โมโหง่าย ก้าวร้าว นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ตกใจง่าย ใจสั่น ความดันโลหิตสูง ไม่มีสมาธิ เครียดง่าย
3. พยายามหลีกเลี่ยงที่จะกลับไปสู่สถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับเหตุการณ์ร้าย เช่น กลัวการขับรถ เพราะเคยเจออุบัติเหตุรถชน กลัวเพศตรงข้าม เพราะเคยถูกข่มขืน กลัวการเดินห้างสรรพสินค้า เพราะเคยเจอเหตุการณ์กราดยิงในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
4. เกิดความรู้สึกทางลบ รู้ศึกเศร้า ไม่มีความสุข ไม่อยากมีชีวิตอยู่ เป็นทุกข์อย่างมาก
ตัวละครหลาย ๆ ตัวในซีรีส์เราจะเห็นได้ว่าเกือบทุกตัวละครมีเรื่องราวบางอย่างที่ฝังอยู่ในจิตใจ และเหตุการณ์ร้าย ๆ เหล่านั้นส่งผลกระทบต่อตัวละครเหล่านั้น รวมไปถึงตัวละครที่เป็นสัตว์ประหลาดแต่ไม่ได้กล่าวถึงที่มาของสาเหตุที่นำไปสู่การกลายร่างเช่นนั้น แต่เราก็พออนุมานได้ว่าสาเหตุของการเป็นเช่นนั้นเกิดจากอะไร
เมื่อเราดูไปเรื่อย ๆ ก็จะเกิดอาการงุนงงว่าสุดท้ายแล้วใครจะกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดบ้าง เพราะอยู่ดี ๆ ตัวละครนี้ก็มีอาการเหมือนจะเป็นสัตว์ประหลาดทั้ง ๆ ที่ตอนแรกก็ปกติดี สิ่งเหล่านี้แหละคือสิ่งที่ซีรีส์พยายามบอกใบ้กับคนดูทุกคน วันนี้คุณอาจจะยังเป็นคนปกติ แต่ถ้าคุณเก็บสะสมความเครียดมากไปเกินรับไหว วันหนึ่งคุณอาจจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดขึ้นมาก็ได้ แต่ถ้าคุณต่อสู้กับมัน และอดทนกับมัน คุณจะแข็งแกร่งจนไม่มีใครสามารถทำอะไรคุณได้เลย
ซีรีส์เกี่ยวกับการเยียวยา ที่พื้นหลังเป็นหนังแฟนตาซีหลุดโลก ที่อาจจะไม่ถูกใจใครหลายคนเท่าไหร่นักจากคะแนนการรีวิวหลาย ๆ สำนัก รวมไปถึงคำวิจารณ์จากผู้ชมในเว็ปไซต์ต่าง ๆ วันนี้ผมมาชี้ชวนให้คุณลองดูและสะท้อนความเป็นจริงที่เราต้องเจอ เราจะยอมแพ้ให้กับมัน หรือลุกขึ้นต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้ ก่อนที่ตัวเราจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดไป
ที่มา: https://www.istrong.co/single-post/_ptsd
