หลายคนได้ทราบกันว่าช่อง NEW18 เป็นช่องทีวีดิจิตอลที่นำเสนอทั้งข่าวสาร สารคดี และสาระความรู้ สำหรับจุดเด่นของช่องนี้ที่คอสารคดีพลาดไม่ได้เด็ดขาดโดยเฉพาะ “สำรวจโลก” จากเนกซ์สเตป ที่ได้นำออกอากาศทางสถานีมาโดยตลอด แต่ในระหว่างนั้นได้ประสบปัญหามาหลายครั้ง จนต้องมีการปรับโครงสร้างอยู่บ่อยครั้ง เคยเจรจาร่วมกับหลายฝ่าย แต่ไม่สามารถตกลงเจรจาร่วมกันได้ จนยังไม่เป็นที่แน่ชัดเลยว่าอนาคตของช่อง NEW18 จะเป็นอย่างไรต่อไป และมีไปในทิศทางได้อย่างไร โปรดติดตามจากบทความนี้กัน
“เดลินิวส์ทีวี” ต้นกำเนิดช่อง NEW18
ช่อง NEW18 เดิมคือช่อง เดลินิวส์ ทีวี ดำเนินการโดย บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด ออกอากาศผ่านดาวเทียมไทยคม โดยมีบุคลากรหลักสำคัญของตระกูล “เหตระกูล” อย่างดร.ประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด เป็นประธานที่ปรึกษา และนายภาณุชัย เหตระกูล ศรีนวลนัด เป็นผู้อำนวยการสถานี โดยเริ่มออกอากาศครั้งแรกบนทีวีดาวเทียมเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ทางดีเอ็น บรอดคาสท์ ได้เข้าประมูลช่องโทรทัศน์ระบบดิจิทัล ประเภทธุรกิจระดับชาติจาก กสทช. จนชนะการประมูลด้วยราคา 1,310 ล้านบาท และได้หมายเลขช่อง 18 จึงเปลี่ยนชื่อช่องเป็น “นิวทีวี” (NEW TV) ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 เป็นต้นไป ในนามบริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จํากัด
ตั้งแต่การออกอากาศทางทีวีดิจิตอลของ NEW TV ในระยะแรกออกอากาศรายการสารคดีตลอดทั้งวันสลับกับข่าว โดยมีพันธมิตรคือ เนกซ์สเตป และรายการข่าวเสมือนเป็นการนำคอลัมน์จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ มาต่อยอด จนได้มีการปรับเปลี่ยนมาหลายครั้งในสัดส่วนเนื้อหาของข่าวและสารคดี กระทั่งโครงสร้างภายในมีการแยกกันช่วงในช่วงปลายปี 2557 เนื่องจากมีการปลดพนักงานในนาม บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด ของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ซึ่งมีจำนวนหนึ่งเป็นพนักงานที่ทำงานในช่อง NEW TV
เพราะผู้บริหารระดับสูงระหว่างคนในตระกูล “เหตระกูล” ที่ดูแลหนังสือพิมพ์กับทีวีเกิดมีปัญหาขัดแย้งกัน โดยมีกระแสว่าส่วนหนึ่งเพราะทาง NEW TV ทำหนังสือพิมพ์ NEW 108 ที่เป็นหนังสือพิมพ์แจกฟรีออกมาเอง (ซึ่งต่อมาก็ได้ยกเลิกตีพิมพ์ในปี 2560) ซึ่งเป็นการทับไลน์กับหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ แม้เป็นหนังสือพิมพ์แบบจำหน่าย แต่มีการแย่งส่วนแบ่งด้านการลงโฆษณา
ต่อมาในวันที่ 28 เมษายน 2559 ได้ย้ายทำการสำนักงานช่อง NEW TV ไปยังสำนักงานใหม่ที่แบริ่ง โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 นิวทีวีได้ปรับโฉมสถานีใหม่ทั้งหมด และเปลี่ยนชื่อช่องเป็น “NEW18” พร้อมปรับโครงสร้างของบริษัทและนโยบายของช่องเน้นการออกอากาศสารคดีทั้งหมด จึงมีการปลดพนักงานฝ่ายข่าวออกบางส่วน และในช่วงปี 2562 ได้มีการเปลี่ยนโลโก้อีกครั้ง เป็นกล่องสีเหลี่ยมสีฟ้าน้ำทะเล ตัวหนังสือสีเหลือง
การเปลี่ยนแปลงของ NEW18 ที่ไม่คาดคิด
ต่อมาในปี 2563 ได้มีการออกอากาศรายการจากช่องฟ้าวันใหม่คู่ขนานไปด้วย โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2563 จึงส่งผลให้รายการสารคดีออกไปเกือบทั้งหมด หลังจากออกอากาศมาได้เพียง 5 เดือน NEW18 ก็กลับมาออกอากาศสารคดีอีกครั้ง ยุติรายการจากช่องฟ้าวันใหม่ และในปีเดียวกันนี้ได้ย้ายโครงข่ายโทรทัศน์จาก MUX#5 ของกองทัพบก ไปยัง MUX#4 ของไทยพีบีเอส จนกระทั่งช่วงปลายปี ได้มีข่าวลือว่าผู้บริหารของดีเอ็น บรอดคาสต์ ได้เจรจาตกลงที่จะขายใบอนุญาตของช่องนิว 18 ให้แก่กลุ่มของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (หรือกลุ่ม TOP NEWS) ไปบริหารต่อ โดยมีชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ จัดแจงเป็นคนกลางในการเจรจา โดยกลุ่มของสนธิญาณได้สั่งซื้อโฆษณาระยะยาวจากบริษัท 6 – 7 บริษัท ซึ่งจะทำรายได้ให้สถานีเป็นจำนวนเงินรวมกว่า 800 ล้านบาท โดยอยู่ในขั้นตอนการเปลี่ยนชื่อบริษัทและโอนทรัพย์สิน และคัดเลือกบุคลากรเดิมบางคนมาร่วมงาน
แต่ต่อมา นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ บรรณาธิการบริหารข่าวของ NEW18 ได้ปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว ซึ่งการเจรจาระหว่างผู้บริหารของดีเอ็น บรอดคาสต์ กับกลุ่มสนธิญาณ จึงเป็นโมฆะไปในที่สุด จนกระทั่งกลุ่มนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ไปเช่าช่องดาวเทียมจากบริษัท ทีวีไดเร็ค จํากัด (มหาชน) ช่อง TVD10 มาออกอากาศภายใต้ชื่อ “TOP NEWS” แทน
JKN TV in NEW 18 = JKN 18?
ในปี 2564 หลังจากผ่านไป 2 เดือน แต่มีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของช่อง NEW18 อย่างการนำรายการจากทาง JKN มาเช่ารายการทาง NEW18 แบบฟ้าผ่า คนที่ทำงานใน NEW18 ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ก่อนวันดังกล่าวยังมีการโปรโมทผังรายการเดิมของวันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2564 และเมื่อถึงวันดังกล่าวที่มีการเปลี่ยนผังแบบฟ้าผ่า ทีม Social Media ของ NEW18 ยังสแตนบาย LIVE ข่าวช่วงเช้าตามปกติอยู่ ซึ่งแต่ก่อนหน้านี้คุณแอน – จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ก็ได้บอกใบ้เกี่ยวกับเลข 18 ก่อนที่จะพบว่ามีรายการของ JKN TV มาออกอากาศที่ช่อง NEW 18
โดยเมื่อได้รับชมพบว่า รายการข่าวของช่อง NEW18 เปลี่ยนเป็นคู่ขนานกับ JKN TV แต่รายการอื่น ๆ เป็นการนำเทปรายการรูปแบบต่าง ๆ ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) มาออกอากาศ ซึ่งคุณเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ หัวหน้ากองบรรณาธิการข่าวช่อง NEW18 ได้โพสต์ Facebook ระบุว่าทาง JKN ได้ทำการเช่าเวลาในสถานีฯ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง รวมระยะเวลา 2 เดือน ส่วนรายการประจำของช่อง NEW18 ทั้งหมดจะย้ายไปออกอากาศทางช่องทางออนไลน์แทน ซึ่งภายหลังได้ลบโพสต์ออกไป แต่ก็ได้พบว่ารายการข่าวเดิมของ NEW18 ไปออกอากาศเฉพาะช่องทางออนไลน์จริง ๆ
กสทช. เรียก NEW18 เข้าพบเพื่อชี้แจง – JKN โร่แจง ก.ล.ต. กรณีเข้าข่ายปั่นหุ้น
จนกระทั่งทางกสทช. ได้ขอเรียกทั้งทาง NEW18 และ JKN ในกรณีที่ JKN เช่ารายการทาง NEW18 ตลอด 24 ชม. โดยตามกฎหมายไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากมีเงื่อนไขให้แบ่งเวลาเช่าออกอากาศได้ไม่เกิน 40% หากให้เช่าเวลาทั้งสถานีจริง ก็จะแจ้งให้แก้ไขปรับปรุงโดยต้องระงับการออกอากาศเนื้อหาของ JKN TV ในส่วนเกินทันที แต่หากไม่มีการปรับปรุงก็จะดำเนินการตามกฎหมาย หากละเมิดโทษสูงสุดถึงขั้นพักใบอนุญาต
ต่อมาพลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กล่าวว่า ผลสรุปจากการหารือพบว่า บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ ได้ให้บริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด (บริษัทย่อยของ JKN) เช่าเวลาเพื่อดำเนินรายการร้อยละ 40 เพื่อร่วมผลิตรายการในช่อง NEW18 ซึ่งเป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การแบ่งเวลาให้ผู้อื่นดำเนินรายการ พ.ศ. 2556
รวมถึงทาง JKN เองก็ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตั้งข้อสังเกตว่า โพสต์ที่คุณแอนได้โพสต์นั้นอาจเข้าข่ายการปั่นหุ้น แต่คุณแอนก็ได้ชี้แจงว่าประโยคที่โพสต์ คือ “+18 =” ไม่ได้เป็นการชี้ราคาเป้าหมาย แต่เป็นการแจ้งช่องทางการจำหน่ายของสินค้า ผ่านทาง Digital TV ช่อง NEW 18 ซึ่งมีข่าวออกไปแล้วก่อนหน้านี้เช่นกัน ส่วนคำว่า “โคตรรวย” นั้นเป็นการสรุปของ CEO ในการนำเสนอว่าธุรกิจ Commerce ที่มีการขายสินค้าจะเป็นเสาเข็มในอนาคตถัดไป นอกเหนือจากการขาย Content ซึ่งถือเป็นการประกาศพื้นฐาน ความมั่นคงของบริษัทที่ดีอยู่แล้ว
JKN + NEW18 = ความร่วมมือในการบริหาร
จนกระทั่งล่าสุดในวันที่ 10 มีนาคม นายภาณุชัย เหตระกูล ศรีนวลนัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสต์ จำกัด ได้ประกาศความร่วมมือระหว่างช่อง NEW18 กับ JKN อย่างเป็นทางการ ในความร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถสร้างคอนเทนต์ให้มีความหลากหลาย โดยได้ยกรายการลิขสิทธิ์จากแบรนด์ดังระดับโลก ทั้งสารคดี และความบันเทิง อย่างซีรีส์จีน อินเดีย และฟิลิปปินส์ เพื่อสร้างความหลากหลาย เสริมสร้างความน่าสนใจ และขยายฐานผู้ชม เพื่อนำไปออกอากาศทางช่อง NEW 18 ซึ่งในตอนนี้อยู่ระหว่างศึกษาและความเป็นไปได้ในความร่วมมือทางธุรกิจ เพื่อร่วมกันสร้างความเข้มแข็งให้แก่การดำเนินงานของทั้ง 2 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะทราบความคืบหน้าในเร็ว ๆ นี้ และยังคงปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของกสทช. อย่างเคร่งครัด
โดยได้ยืนยันว่าไม่ได้เช่า 24 ชั่วโมง ซึ่งทางสำนักงานกสทช. ยังไม่เห็นตัวสัญญาธุรกิจที่ทำกัน ตอนนี้ทาง กสทช. อยู่ในระหว่างการประสานงาน โดยมอบหมายให้ นางสาวมณีรัตน์ กำจรกิจการ ผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. ไปดูรายละเอียดว่าตัวสัญญามีการปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือไม่? โดย NEW 18 จะสามารถนำเสนอคอนเทนต์ที่มีความหลากหลาย แต่ยังคงเป็นสถานีที่เน้นให้ความรู้ ข่าวสาร และสาระเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ชมเช่นเดิม
ส่วนทางด้าน JKN คุณแอน – จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ได้กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนงานที่ต้องการนำจุดแข็งด้านธุรกิจคอนเทนต์ ไปต่อยอดกลุ่มธุรกิจ Commerce ที่ทางบริษัทฯ กำลังรุกหนักขยายตลาด ขยายฐานลูกค้าและสื่อสารด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มผู้ชมได้โดยตรง หรือที่เรียกว่า Direct to Consumer (D2C) ผ่านช่วงเวลาโฆษณาหรือ Tie-in สินค้าในรายการที่ JKN ผลิตขึ้น
ส่องผลประกอบการ NEW18 พบขาดทุนสะสมกว่า 2,900 ล้านบาท!
สำหรับผลประกอบการ ดีเอ็น บรอดคาสท์ หรือช่อง NEW18 ตั้งแต่ 2557 – 2562 จะเห็นได้ว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ยังไม่สามารถสร้างกำไรได้แม้แต่ครั้งเดียว ตั้งแต่เริ่มเข้ามาในช่องทีวีดิจิทัลเป็นต้นมา มีการขาดทุนสะสมถึง 2,934.01 ล้านบาท โดยสาเหตุมาจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันรุนแรง ประกอบกับเม็ดเงินโฆษณาลดลง รวมไปถึงปัจจัยเรื่อง Covid-19 อีกด้วย และเมื่อปี 2562 ที่มีการเปิดโอกาสให้สามารถขอคืนช่องทีวีดิจิทัลและได้รับเงินประมูลคืน ทาง NEW 18 ก็ไม่ได้ขอคืนแต่อย่างใด ซึ่งมีคนตั้งข้อสังเกตว่าขาดทุนมากจนถ้าต้องปลดพนักงาน และยังไม่สามารถจ่ายเงินชดเชยพนักงานที่ปลดได้
สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปสำหรับ NEW18 คือการนำ JKN เข้ามาสร้างผลิต Content ระดับโลก มีการเพิ่มขยายฐานผู้ชมที่มากขึ้น จะสามารถช่วยเรตติ้งและสร้างรายได้ให้กับช่อง NEW18 ดีขึ้นหรือไม่ และหลังต่อจากนี้คงจะเป็นอย่างไรต่อไปสำหรับอนาคตของช่อง NEW18 คงต้องติดตามกันต่อไป
เรียบเรียงโดย ทีมกองบรรณาธิการโมเดิร์นนิสต์ สตูดิโอ
แหล่งอ้างอิงทั้งหมด
https://www.newtv.co.th/news/78345
https://www.infoquest.co.th/2021/70377
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000022400
https://www.thansettakij.com/content/business/471420
https://www.thansettakij.com/content/471371
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/926357
https://yarmfaojor.net/content/2208
https://www.dailynews.co.th/entertainment/219278
https://www.tvdigitalwatch.com/new18-performance-57-62/
https://www.newtv.co.th/news/78344
https://sapparot.co/2017/06/28/new108-free-newspaper/
https://www.facebook.com/ONBTC/photos/a.230056520383108/3727947737260618/
https://thunhoon.com/article/237021
https://www.matichon.co.th/economy/news_2619228
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/2047568
Content Creator ประจำกองบรรณาธิการเว็บไซต์ส่องสื่อ
