fbpx

ถือว่าเป็นอีกข่าวที่ทางไทยทีวียืดยื้อมานานพอสมควร สำหรับคดีการฟ้องร้องกรณีการยุติการออกอากาศโทรทัศน์ระบบดิจิตอลกับ กสทช. ที่ถึงแม้ว่าล่าสุดทางไทยทีวีจะชนะคดีแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้เงินกลับคืนมาจากการชำระในงวดที่ 2 และงวดที่ 3 แต่อย่างใด

แต่ล่าสุดก็ต้องยินดีกับไทยทีวีอีกครั้ง เมื่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้เผยแพร่การประชุมเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ให้อนุมัติในหลักการ โดยให้ปรับแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 เพื่อสำรองจ่ายชำระคืนเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ให้แก่ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ของงวดที่ 2 และงวดที่ 3 จำนวนเงินรวม 672,816,000บาท ภายในระยะเวลาที่กำหนดตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 7 พฤษภาคม 2564

โดยเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และเป็นไปตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการงบประมาณของสำนักงาน กสทช. พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. นำเรื่องการปรับแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 เพิ่มเติม เพื่อจ่ายชำระคืนเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ งวดที่ 2 และงวดที่ 3 ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวข้างต้น เสนอคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนนำเสนอที่ประชุม กสทช. พิจารณาอนุมัติต่อไป

นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบการคืนเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ทีวีดิจิทัลให้ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด จำนวน 151,730,755.58 บาทโดยเบิกจ่ายจากบัญชีกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยเป็นเงินสัดส่วนจากเงินประมูลคลื่นทีวีดิจิทัล ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ

เจ๊ติ๋ม" ไล่บี้ ฟ้อง กสทช. ชี้ ม.44 ไม่ทำให้ "ทีวีดิจิทัล" ดีขึ้น

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 ศาลได้ตัดสินคดีความระหว่าง สำนักงาน กสทช. และ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ของนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย ที่เริ่มดำเนินการฟ้องร้องมาหลายปี โดยมีใจความว่า บริษัท ไทยทีวี จำกัด ได้ชนะการประมูลทีวีดิจิทัลเมื่อปี 2556 จำนวน 2 ช่องรายการคือ ไทยทีวี ช่องประเภทข่าวและสาระ หมายเลข 17 และ โลกา (Loca) ช่องประเภทเด็ก เยาวชน และครอบครัว หมายเลข 15 ต่อมาได้ยุติประกอบกิจการในปี 2558 โดยได้ทำการขอคืนใบอนุญาตและคืนเงินประมูล แต่ไม่สามารถยุติการออกอากาศได้ ทำให้ไทยทีวีได้ยื่นฟ้องร้อง โดยมี กสทช. เป็นจำเลย

โดยศาลได้ตัดสินอย่างเป็นทางการว่า บริษัท ไทยทีวี จำกัด สามารถบอกเลิกสัญญาได้ เนื่องจากทาง กสทช. ไม่สามารถปฏิบัติตามที่โฆษณาหรือประกาศไว้ได้ เช่น แจกคูปองช้ากว่าที่ประกาศไว้ 6 เดือน ประชาสัมพันธ์การเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลทีวีล่าช้า ไม่ทั่วถึง ขยายโครงข่ายช้า และไม่มีแผนเยียวยาที่แน่นอน ซึ่งทางกสทช. ก็ยอมรับคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด

โดยให้ กสทช. คืนเงินค่าใบอนุญาต งวดที่ 1 ที่จ่ายเกินไป จำนวน 152 ล้านบาท และให้ กสทช. คืนหนังสือค้ำประกันทั้งหมด หากคืนไม่ได้ ให้ใช้คืนเป็นเงินสด จำนวน 1,750 ล้านบาท และคืนเงินงวดที่ 2 ให้กับธนาคารกรุงเทพที่จ่ายแทนอีก 384 ล้าน ซึ่งทั้งหมดต้องทำให้เสร็จภายใน 60 วัน ส่วนค่าเสียหายศาลไม่ได้ตัดสินให้คืนแก่ไทยทีวี ซึ่งจากกรณีนี้ ไทยทีวีได้ใช้คลื่นความถี่ดังกล่าวในระยะหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นระยะสั้นกว่าที่กำหนดในใบอนุญาตมาก จึงไม่ควรที่จะบังคับต้องจ่ายค่าธรรมเนียมมากกว่าผลประโยชน์ที่ได้

อ่านข่าว “[สรุป] ติ๋ม ทีวีพูล เฮ! ศาลตัดสินให้ กสทช. คืนเงินค่าประมูลทีวีดิจิทัล” ได้ทาง https://songsue.co/13450/