หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอผลประกอบการในส่วนของ TNN16 กันไปบ้างแล้ว วันนี้ก็ถึงตาของ TRUE4U กันบ้างที่ในปี 2563 ที่ผ่านมามีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงช่องไปมากพอสมควร โดยเฉพาะการตั้งใจปรับให้เป็นช่องภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ พร้อมโยกทีมข่าวไปไว้ที่ TNN16 และออกอากาศคู่ขนานกันไป เพื่อทำให้สามารถมีรายการข่าวและสาระในสัดส่วนที่ กสทช. ระบุเอาไว้นั่นเอง
สำหรับการปรับกลยุทธ์ในครั้งนี้ TRUE4U ได้แบ่งให้โทนของช่องเน้นหนักไปที่ภาพยนตร์ที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งไทยและต่างประเทศ โดยแบ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมกับคนดู ทำให้เรตติ้งเริ่มเติบโตมากขึ้น เนื่องด้วยคนบางส่วนอาจจะถูกใจกับจริตในการเลือกภาพยนตร์ที่ TRUE4U คัดมาฉายก็เป็นไปได้
สำหรับผลประกอบการในปี 2563 ของ บริษัท ทรูโฟร์ยู สเตชั่น จำกัด นั้น ได้รายงานเอาไว้ว่ามีรายได้รวมอยู่ที่ 554,244,045 บาท ลดลงจากปี 2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 591,421,956 บาท หรือลดลงร้อยละ 6.28 ในขณะที่รายจ่ายของบริษัทโดยรวมในปี 2563 อยู่ที่ 637,159,298 บาท ลดลงจากปี 2562 ที่มีรายจ่ายรวมอยู่ที่ 921,195,940 บาท หรือลดลงร้อยละ 30.83 เลยทีเดียว ทำให้หลังหักดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้ มีผลการขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 133,438,400 บาท ลดลงจากปี 2562 ที่มีผลขาดทุนสุทธิถึง 363,699,076 บาทนั่นเอง
ในขณะที่สินทรัพย์รวมของบริษัท ทรูโฟร์ยู สเตชั่น จำกัด นั้น พบว่าในปี 2563 มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 2,477,220,271 บาท ลดลงร้อยละ 0.54 ในขณะที่หนี้สินรวมอยู่ที่ 1,553,167,567 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ร้อยละ 8.35
ปัจจุบัน บริษัท ทรูโฟร์ยู สเตชั่น จำกัด ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลช่องหมายเลข 24 มีคณะกรรมการบริษัท ได้แก่ นายศุภชัย เจียรวนนท์, นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ, นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา, นายอรรถพล ณ บางช้าง และนางรุ่งฟ้า เกียรติพจน์ โดยมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท
ต้องติดตามกันต่อไปว่าการปรับกลยุทธ์ในครั้งนี้ของ TRUE4U จะกอบกู้ทั้งเรตติ้งและเม็ดเงิน (ที่ไม่ใช่แค่ในเครือของตนเอง) ได้มากน้อยแค่ไหน? และจะทำให้คนดูหันมากดหน้าจอที่เลข 24 ได้นานเท่าไหร่? ต้องติดตามต่อไปครับ
ชอบดูทีวี สนใจเรื่องราวของสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะสื่อทีวีและวิทยุ ชอบเขียนบทความ เป็นเด็กค่าย #YWC16
