บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยงบการเงินต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 โดยเปิดเผยพบว่างบการเงินประจำไตรมาสที่ 1/2564 มีกำไรเข้ามาถึง 35 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 104 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเลยทีเดียว
โดยรายได้ที่เติบโตมากที่สุด คือรายได้จากโครงข่ายทีวีดิจิตอล ซึ่งในไตรมาสนี้มีรายได้อยู่ที่ 111,740,000 บาท ทำให้มีกำไรจากส่วนงานนี้อยู่ที่ 33,880,000 บาท มากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ส่วนงานนี้อยู่ที่ 91,650,000 บาท และขาดทุนจากส่วนงานนี้ที่ 10,960,000 บาท
ในขณะที่รายได้จากการบริการทางโทรทัศน์และข่าว ยังครองส่วนแบ่งอันดับที่ 2 ของธุรกิจใน อสมท อยู่ โดยแบ่งรายได้คือ รายได้ค่าโฆษณา ในไตรมาสนี้มีรายได้อยู่ที่ 56,440,000 บาท น้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ที่ 56,730,000 บาท ในขณะที่รายได้จากค่าเช่าเวลาในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น โดยมีรายได้อยู่ที่ 12,920,000 บาท มากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 9,850,000 บาท
ส่วนรายได้จากโครงการต่างๆ นั้นมีรายได้สูงขึ้นเล็กน้อย โดยในไตรมาสนี้ทำรายได้อยู่ที่ 30,960,000 บาท มากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 29,560,000 บาท ส่วนรายได้จากการดำเนินงานอื่นนั้นลดลง โดยในไตรมาสนี้มีรายได้อยู่ที่ 9,890,000 บาท ขณะที่ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 14,350,000
เมื่อรวมรายได้จากธุรกิจโทรทัศน์จะพบว่ามีรายได้รวมอยู่ที่ 110,210,000 บาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ในส่วนงานนี้อยู่ที่ 110,490,000 บาท แต่ในไตรมาสนี้มีกำไรจากส่วนงานนี้อยู่ที่ 30,460,000 บาท มากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนจากส่วนงานนี้ที่ 112,760,000 บาท
ในส่วนของรายได้จากการบริการวิทยุนั้น ในไตรมาสนี้แบ่งรายได้เป็นรายได้จากค่าโฆษณาซึ่งลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สำหรับไตรมาสนี้นั้นมีรายได้ส่วนนี้ที่ 89,410,000 บาท ในขณะที่ไตรมาสที่ 1/2563 มีรายได้ส่วนนี้อยู่ที่ 110,750,000 บาท และในส่วนของรายได้จากค่าเช่าเวลานั้นก็ลดลงเช่นเดียวกัน โดยในไตรมาสนี้ทำรายได้อยู่ที่ 8,150,000 บาท ในขณะที่ไตรมาสที่ 1/2563 ทำรายได้อยู่ที่ 12,580,000 บาท
ส่วนของรายได้จากโครงการต่างๆ นั้นก็ลดลงเช่นเดียวกัน โดยมีรายได้ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 500,000 บาท ขณะที่ไตรมาสที่ 1/2563 มีรายได้ส่วนงานนี้อยู่ที่ 520,000 บาท และรายได้จากการดำเนินงานอื่นก็ยังลดลงด้วยเช่นกัน โดยในไตรมาสนี้มีรายได้อยู่ที่ 2,680,000 บาท ในขณะที่ไตรมาสที่ 1/2563 มีรายได้อยู่ที่ 11,400,000 บาท
ทำให้รายได้ในส่วนงานวิทยุรวมในไตรมาสนี้อยู่ที่ 100,740,000 บาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 135,250,000 บาท และกำไรในส่วนงานนี้ก็ลดลงเล็กน้อย โดยมีกำไรส่วนงานอยู่ที่ 55,630,000 บาท ขณะที่ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 55,800,000 บาท
ในขณะที่รายได้ในส่วนสุดท้าย คือรายได้จากบริการทางธุรกิจใหม่ ในไตรมาสนี้ทำรายได้อยู่ที่ 2,520,000 บาท น้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3,930,000 บาท แต่การขาดทุนในส่วนงานนี้กลับลดลง โดยมีผลขาดทุนในส่วนงานประจำไตรมาสนี้อยู่ที่ 3,100,000 บาท น้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนในส่วนงานนี้อยู่ที่ 11,350,000 บาท
ทำให้มีรายได้รวมจากธุรกิจต่างๆ อยู่ที่ 325,211,000 บาท รวมกับรายได้อื่นๆ ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 36,010,000 บาท ทำให้รายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 361,221,000 บาท น้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 464,976,000 บาท เมื่อหักลบต้นทุนและค่าใช้จ่าย รวมไปถึงภาษีเงินได้ก็จะมีกำไรอยู่ที่ 35,275,000 บาท มากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนมากถึง 877,557,000 บาท สาเหตุที่ถึงแม้รายได้ลดลงแต่กำไรมากถึง ก็เนื่องจากการบริหารค่าใช้จ่ายให้เกิดประสิทธิภาพ ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงถึงร้อยละ 76 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ชอบดูทีวี สนใจเรื่องราวของสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะสื่อทีวีและวิทยุ ชอบเขียนบทความ เป็นเด็กค่าย #YWC16
