fbpx

หลายคนที่เห็นพาดหัวคงจะตกใจไม่ใช่น้อยว่าทำไมถึงเลือกการพาดหัวแบบนี้ขึ้น? แน่นอนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า TOPNEWS เป็นหนึ่งในสถานีโทรทัศน์ที่ขึ้นชื่อด้านการทำข่าวที่โน้มฝั่งรัฐบาลภายใต้การนำของ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” มาตั้งแต่สมัยยังเป็น TNEWS ร่ายยาวมาจนถึงเนชั่นทีวี และการลาออกมาจับมือกับทีวีไดเร็คเพื่อเช่าสถานที่และคลื่นความถี่ และนี่จึงเป็นที่มาของ TOPNEWS นั่นเอง

แน่นอนว่าสื่อเลือกข้างในยุคสมัยนี้มีหลากหลาย ต้องยอมรับกันตามตรงว่าสื่อหลายหัวมักจะถูกเกิดมาเพื่อตอบสนองอะไรบางอย่างเสมอ เช่น การนำเสนอข่าวสารที่ให้พื้นที่ทั้งสองฝั่ง แล้วให้คนดูเป็นคนตัดสิน หรือสื่อที่นายทุนอยากให้เป็นกระบอกเสียงแทนองค์กร เป็นต้น ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องอยู่บนของเขตของสิทธิเสรีภาพและความรับผิดชอบต่อประชาชนและสังคมอย่างแท้จริง ไม่ปล่อยข่าวลวงที่ทำให้เข้าใจผิด ตลอดจนถึงพูดเอนเอียงข้างใดข้างหนึ่ง ใส่ความเห็นของตนมากจนเกินไป

กลับมาที่ประเด็นของเรากันครับ หลังจากที่ตอนต้นปี 2564 เราได้เผยแพร่สองบทความแรก คือการย้ายช่องของทีมสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรมและพรรคพวก จนกระทั่งการดีลช่อง 18 ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นของ JKN18 ในที่สุด แต่ก็ต้องยอมรับในฝีมือการดีลและพลังแห่ง Connection ที่สามารถจับมือกับทีวีไดเร็คในการหยิบช่อง TVD10 มาเปลี่ยนแปลงเป็น TOPNEWS ให้เข้าถึงตาประชาชนเป็นจำนวนมากได้

แล้วทีวีเลือกข้างมีคนดูไหม? นี่คือคำถามที่สำคัญซึ่งวันนี้ทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ส่องสื่อได้ค้นหาข้อมูล โดยได้ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. มาเผยแพร่เพื่อทำให้ทุกคนรับทราบมากขึ้นด้วยครับ

คือต้องเกริ่นแบบนี้ก่อนครับ TOPNEWS นั้นดำเนินการผลิตเนื้อหาโดย บริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิตัล มีเดีย จำกัด ภายใต้ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 โดยมีคณะกรรมการบริษัท ได้แก่ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, นายฉัตรชัย ภู่โคกหวาย, นางลักขณา รัตน์วงศ์สกุล, นายตระกูล วินิจนัยภาค, นายเอกชัย ชัยเชิดชูกิจ, นายชยธร ธนวรเจต, นายเอกพันธุ์ แป้นไทย, นางสาวกิ่งการะเกด ชื่นฤทัยในธรรม, นายพงษ์ศักดิ์ ชมสุวรรณ และนางสาวสุธิดา สาริกุล โดยสำนักงานจดทะเบียนอยู่ที่ 206 ถนนประชาราษฎร์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

แต่ในการดำเนินการสถานีโทรทัศน์นั้น ได้เช่าสัญญาณออกอากาศและใบอนุญาตจาก บริษัท เอบีพีโอ จำกัด โดยในระยะแรกใช้ชื่อ TVD10 – TOPNEWS ควบคู่กันไป จนกระทั่งได้ขออนุญาตจาก กสทช. ในการเปลี่ยนชื่อเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 ตามการประชุมของ กสทช. ครั้งที่ 5/2564 จึงทำให้สามารถใช้ชื่อ TOPNEWS เพียงอย่างเดียวได้

อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่การก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ TOPNEWS ในช่วงที่ผ่านมาจะพบว่าฐานคนดูเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยจากการจัดอันดับของ Nielsen พบว่าสถานีโทรทัศน์ TOPNEWS มีกลุ่มคนดูค่อนข้างชัดเจนและมีจำนวนหนึ่งเลยทีเดียว

ซึ่งจากตารางจะพบว่าในเดือนกุมภาพันธ์เปิดมาด้ายเรตติ้ง 0.054/0.040 ซึ่งนับแยกเพศหญิง/ชายตามลำดับ และมาเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคมที่เรตติ้งเพิ่มขึ้นเป็น 0.055/0.045 จนถึงเดือนเมษายนฐานของเพศชายจึงมากขึ้น แต่เพศหญิงน้อยลง โดยเป็นเลข 0.050/0.047 (ตามลำดับหญิง/ชาย) ซึ่งถึงแม้ในกลุ่มสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมนั้นจะแพ้กลุ่มช่องเด็ก โดยเฉพาะช่อง Boomerang ซึ่งมีฐานเด็กที่รับชมค่อนข้างมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าในกลุ่มช่องข่าวมีคนดูมากเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว

ในขณะที่เม็ดเงินโฆษณานั้นพบว่าสัดส่วนของ TOPNEWS เมื่อเทียบกับอีก 5 ช่องพบว่ามีสัดส่วนที่ดีมากพอสมควร อย่างในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นเดือนแรกที่ออกอากาศ พบว่ามีส่วนแบ่งอยู่ที่ร้อยละ 13.32 ในขณะที่เดือนมีนาคมนั้นลดลงมาเหลือร้อยละ 10.52 และกลับฟื้นตัวขึ้นมาในเดือนมีนาคมที่ร้อยละ 13.07

นอกเหนือจากนี้ ในช่องทางออนไลน์ของ TOPNEWS ยังมีผู้ติดตามบน YouTube มากถึง 604,000 คน และมีผู้ชมมากกว่า 246,666,122 ครั้ง ในขณะที่บน Facebook ก็มีผู้ติดตามมากถึง 518,039 คนเลยทีเดียว ไม่นับช่องทางอื่นๆ และการรับชมสดที่มีฐานผู้ชมหนาแน่นอีกด้วย

ต้องติดตามกันต่อไปว่า TOPNEWS จะยังอยู่รอดไปถึงเมื่อไหร่? และการปรับตัวในท่ามกลางโลกดิจิทัลจะเป็นอย่างไรสำหรับ TOPNEWS โปรดอย่ากะพริบตาเชียว!

Infographic : ทินวุฒิ ลิวานัค