fbpx

แน่นอนว่าทุกๆ ปีส่องสื่อก็ต้องมาจับตาธุรกิจสื่อ ซึ่งหนึ่งในกลุ่มที่จับตากันอยู่เสมอๆ นั่นก็คือกลุ่มของไทยรัฐนั่นเอง ซึ่งวันนี้จะจับตารายได้ของทั้งสื่อโทรทัศน์ที่มีช่องไทยรัฐทีวี หมายเลข 32, สื่อออนไลน์อย่างไทยรัฐออนไลน์ และสื่อสิ่งพิมพ์อย่างหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ว่าทั้ง 3 ธุรกิจนี้ใครมาแรงกว่ากัน และใครที่น่าเป็นห่วงกว่ากัน

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐยังขาดทุนต่อเนื่อง

เริ่มต้นจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ที่ดำเนินการโดย บริษัท วัชรพล จำกัด โดยมีทุนจดทะเบียน 4 พันล้านบาท และมีคณะกรรมการบริษัทประกอบไปด้วย คุณหญิงประณีตศิลป์ วัชรพล, นางยิ่งลักษณ์ วัชรพล, นายสราวุธ วัชรพล และนายวัชร วัชรพล ก่อตั้งเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2518

สำหรับบริษัท วัชรพล จำกัดนั้น ในปี 2563 มีสินทรัพย์อยู่ที่ 21,348,096,198.81 บาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 1.27 ในขณะที่หนี้สินรวมอยู่ที่ 354,224,917.08 บาท ลดลงร้อยละ 28.82 ในส่วนของรายได้นั้น ปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,206,040,454.02 บาท ลดลงจากปี 2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,706,034,580.49 บาท ร้อยละ 29.30 ในขณะที่รายจ่ายรวมปี 2563 มีรายจ่ายรวมอยู่ที่ 1,275,689,839.62 บาท ลดลงจากปี 2562 ที่มีรายจ่ายรวมอยู่ที่ 1,722,939,334.79 บาท ร้อยละ 25.95 แต่ทำให้ผลประกอบการขาดทุนสุทธิของปี 2563 อยู่ที่ 69,740,438.60 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 36,040,572.70 บาท ถึงร้อยละ 93.50

ไทยรัฐทีวีเริ่มทำกำไรแล้ว

ต่อกันด้วยไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ที่ดำเนินการโดย บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1 พันล้านบาท และมีคณะกรรมการบริษัทประกอบไปด้วย นางยิ่งลักษณ์ วัชรพล, นายสราวุธ วัชรพล, นายวัชร วัชรพล และนางสาวจิตสุภา วัชรพล ก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2556

สำหรับไทยรัฐทีวีนั้น ในปี 2563 มีสินทรัพย์อยู่ที่ 2,403,878,498.87 บาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 6.68 ในขณะที่หนี้สินรวมอยู่ที่ 5,932,357,254.45 บาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 5.54 ในส่วนของรายได้นั้น ปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,515,066,241.28 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,376,103,399.89 บาท ถึงร้อยละ 10.09 และรายจ่ายรวมในปี 2563 อยู่ที่ 1,242,805,665.45 บาท ลดลงจากปี 2562 ที่มีรายจ่ายอยู่ที่ 1,431,374,125.38 บาท ถึงร้อยละ 13.17 ทำให้กำไรสุทธิในปี 2563 อยู่ที่ 175,878,569.54 บาท มากกว่าปี 2562 ที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 171,389,707.41 บาท

ไทยรัฐออนไลน์ยังเป็นผู้นำ

สุดท้ายมาดูที่ไทยรัฐออนไลน์ ที่ดำเนินการโดย บริษัท เทรนด์ วี จี 3 จำกัด มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 20 ล้านบาท และมีคณะกรรมการบริษัทประกอบไปด้วย คุณหญิงประณีตศิลป์ วัชรพล, นางยิ่งลักษณ์ วัชรพล, นายสราวุธ วัชรพล, นายวัชร วัชรพล และนางสาวจิตสุภา วัชรพล ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2551

สำหรับไทยรัฐออนไลน์ ในปี 2563 มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 264,820,166.07 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ร้อยละ 23.78 ในขณะที่หนี้สินรวมในปี 2563 อยู่ที่ 60,037,689.12 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ร้อยละ 32.44 ในส่วนของรายได้นั้น ในปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 226,469,879.61 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 194,152,118.49 บาท ถึงร้อยละ 16.64 ในขณะที่รายจ่ายรวมอยู่ที่ 181,174,618.10 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีรายจ่ายรวมอยู่ที่ 176,319,744.86 บาท ร้อยละ 2.75 และกำไรสุทธิในปี 2563 อยู่ที่ 36,176,144.83 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14,117,375.51 บาท

ในส่วนของไทยรัฐออนไลน์ ในวันที่ 2 มิถุนายน 2564 ก็ได้มีการออกแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ “THAIRATH+” ภายใต้แนวคิด We Speak to SPARK โดยเป็นพื้นที่สำหรับเนื้อหาเชิงลึก สร้างบทสนทนาคิดวิเคราะห์ แบ่งปันข้อมูลทันกระแส ผ่านแง่มุมคมคาย และเติมเต็มชีวิตให้รอบด้าน

ไทยรัฐ โลจิสติคส์ ยังต้องรองบปี 2564

และสำหรับธุรกิจใหม่ที่น่าจับตามองอย่างไทยรัฐ โลจิสติคส์ ที่ดำเนินการโดย บริษัท ไทยรัฐ โลจิสติคส์ จำกัด นั้นพบว่ามีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท และมีคณะกรรมการบริษัท ประกอบไปด้วย นางยิ่งลักษณ์ วัชรพล, นายสราวุธ วัชรพล, นายวัชร วัชรพล และนางสาวจิตสุภา วัชรพล โดยก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563

สำหรับไทยรัฐ โลจิสติคส์นั้น มีสินทรัพย์รวมในปี 2563 อยู่ที่ 9,993,177.39 บาท มีหนี้สินรวมอยู่ที่ 25,626.00 บาท มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,332.59 บาท มีรายจ่ายรวมอยู่ที่ 33,781.20 บาท ทำให้ในปี 2563 มียอดขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 32,448.61 บาท ซึ่งด้วยความที่บริษัทนี้เพิ่งตั้ง จึงต้องจับตากันต่อไป