fbpx

หลังจากการย้ายค่ายจากช่อง 3HD มาอยู่บ้านหลังใหม่อย่างช่อง 7HD ก็เนื้อหอม ได้รับการจัดสรรเวลาหลากหลายช่วงเวลาทั้งนาทีทองและช่วงเวลาใหม่ ส่องสื่อก็เลยขอมาดูผลประกอบการสักหน่อย สำหรับบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่เพิ่งเลิกใช้ชื่อ BEC ไปเมื่อปีที่แล้ว และย้ายมาซบอกกับช่อง 7 ล่าสุดผลประกอบการประจำปี 2563 ออกมาแล้ว ส่องสื่อเลยนำผลประกอบการมาเล่าสู่กันฟังกันครับ

บริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2546 มีทุนจดทะเบียน 250 ล้านบาท และมีทุนที่ชำระแล้ว 200 ล้านบาท มีคณะกรรมการบริษัท ได้แก่ นายไบรอันลินด์เซ มาร์การ์, นายประวิทย์ จิตนราพงศ์, นายพงษ์พันธ์ วงศ์หนองเตย, นายเนล เวนน์ ทอมบ์สัน และนายคมกริช ศิริรัตน์ วัตถุประสงค์ล่าสุดที่ส่งงบการเงินคือ ขายโฆษณารายการโทรทัศน์

สำหรับสินทรัพย์รวมในปี 2563 พบว่าเทโรมีสินทรัพย์รวม 683,139,884.00 บาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 7.26 (เดิมมีสินทรัพย์ปี 2562 อยู่ที่ 736,687,367.00 บาท) และหนี้สินรวมในปี 2563 มีหนี้สินรวมอยู่ที่ 648,495,026.00 ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 3.54 (จากเดิมมีหนี้สินรวมปี 2562 อยู่ที่ 672,316,187.00 บาท)

สำหรับรายได้รวมในปี 2563 พบว่ามียอดรวม 1,080,486,087.00 บาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 32.90 (จากเดิมปี 2562 มีรายได้รวม 1,610,340,349.00 บาท) รายจ่ายรวมในปี 2563 พบว่ามียอดรวม 1,187,553,142.00 บาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 35.19 (จากเดิมปี 2562 มีรายจ่ายรวมอยู่ที่ 1,832,522,032.00 บาท) และยอดขาดทุนสุทธิปี 2563 รวมอยู่ที่ 35,150,281.00 บาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 83.88 (จากเดิมปี 2562 มียอดขาดทุนสุทธิที่ 211,540,344.00 บาท)

สำหรับในช่วงที่วิกฤตโควิด-19 ยังคงพบเจออยู่จนไม่อาจสามารถจัดคอนเสิร์ตได้ เทโรควรต้องรุกรายการโทรทัศน์ให้มากขึ้น โดยเฉพาะการผลิตรายการที่ตนเองถนัด และสามารถสร้างรายได้ได้ในระยะยาว รวมถึงหาโมเดลทางธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นไปได้ให้ดีขึ้น เพื่อช่วยทำให้เทโรยังคงสามารถประคองธุรกิจ ลดรายจ่าย และสร้างกำไรได้ในที่สุดอีกด้วย