เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 นายเดียว วรตั้งตระกูล เลขานุการสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับส่องสื่อ ถึงกรณีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รวมถึงการใช้เงิน 600 ล้านบาทจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยได้กล่าวว่า ตามมติของสมาคมก็ไม่เห็นด้วยที่จะใช้เงินจากกองทุน กทปส. ในการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก แต่เราเห็นด้วยที่จะซื้อฟุตบอลโลกถ้าหากว่ามีความเหมาะสมของที่มาที่ไปของเงิน ซึ่งการนำเงินกองทุน กทปส. ที่เกิดจากการหักรายได้จากค่าใบอนุญาตโทรทัศน์ 19 ช่องในทุกๆ ปีไป
โดยปัจจุบันเงินในกองทุนเหลือ 2,800 ล้าน กับเวลาอีก 7 ปีที่เหลืออยู่ในใบอนุญาตโทรทัศน์ระบบดิจิตอล ซึ่งมีความหมายมากๆ ในการนำเงินไปพัฒนาอุตสาหกรรมโทรทัศน์โดยรวม เช่น การพัฒนาล่ามภาษามือ หรือการทำบริการรับชมสำหรับผู้พิการน่าจะเหมาะสมกว่าฟุตบอลโลก จึงนำไปสู่การตั้งคำถามมากมาย ฉะนั้นการใช้เงินจากกองทุนนี้ ซึ่งเรา (สถานีโทรทัศน์รับบดิจิตอล) เป็นที่มาของเงิน เราก็ไม่เห็นด้วยแบบหัวชนฝาอยู่แล้ว
ส่วนของการออกอาอากาศนั้น สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) ตั้งธงกับหน่วยงานที่ร่วมซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมาอยู่แล้ว คือ การกีฬาแห่งประเทศไทย และ กสทช. ยังไงก็ต้องให้เงิน 600 ล้านบาทซึ่งมาจากโทรทัศน์ระบบดิจิตอล 19 ช่อง ทั้ง 19 ช่องก็ควรได้รับผลประโยชน์อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม นั่นคือควรได้ถ่ายทอดสดทั้งหมด จะเอาหรือไม่ก็อีกเรื่องแต่ก็ควรได้รับการถ่ายทอดสดอย่างเท่าเทียมกัน และหากมีผลประโยชน์ใดๆ เกิดขึ้น 19 ช่องโทรทัศน์ระบบดิจิตอลก็ควรมีส่วนได้รับรู้ผลประโยชน์เหล่านั้นด้วย มันจึงจะความยุติธรรมในการใช้เงิน ถ้าหากมีการใช้เงิน กทปส. เป็นหลักแต่มีการถ่ายทอดหลักเพาะบางกลุ่มบางก้อนและตจั้งเงื่อนไขที่ไม่ยุติธรรมสำหรับกลุ่มหลัก คือโทรทัศน์ระบบดิจิตอลซึ่งเป็นแหล่งที่มาของเงิน ก็ต้องทักท้วงไป
อย่างไรก็ดี ในวันพรุ่งนี้ (21 พฤศจิกายน 2565) สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) จะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนการกีฬาแห่งประเทศไทย และทักท้วงให้มีการจัดสรรตารางการถ่ายทอดสดใหม่ให้แก่ กสทช. ต่อไป โดยจะยังอนุโลมให้ทรูได้ถ่ายทอดในช่วงแรกไปก่อน จนกว่าจะได้ข้อสรุป หลังจากที่เกิดความไม่พอใจขึ้นทั้งเงื่อนไขในการนำการถ่ายทอดสดลงช่อง โดยที่ต้องแบ่งเวลาโฆษณาและแบ่งการขายโฆษณา รวมถึงการแทรกแซงการถ่ายทอดสดของทรูที่ได้รับสิทธิ์ให้เลือกได้ก่อน 32 คู่ลงในช่องทางของตนเอง ทั้ง ๆ ที่จ่ายเงินเพียง 300 ล้านบาท ซึ่งทำให้สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) ต่างมีคำถามมากมายเกิดขึ้น และนำไปสู่การทักท้วงต่อไปนั่นเอง
ชอบดูทีวี สนใจเรื่องราวของสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะสื่อทีวีและวิทยุ ชอบเขียนบทความ เป็นเด็กค่าย #YWC16
