จากบทความที่แล้ว เราพึ่งได้เล่าเกมโชว์ที่นำความจริงที่เลวร้ายมาเป็นคำถามชิงรางวัล ในบทความนี้เราขอสลับขั้วมาบ้าง บางครั้งควิซโชว์ทุกรายการก็ไม่ได้ตึงเครียดตลอดเวลา มีจุดเฮฮาบ้าง จุดโชว์เหนือบ้าง จุดที่ต้องงัดความรู้ที่มีอยู่ในหัวสมองทั้งหมดเข้ามาใช้บ้าง แต่ในบทความนี้ เราจะขอแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับรายการเกมโชว์จากสหราชอาณาจักรที่คุณไม่ต้องเตรียมความรู้มากมายเพื่อโชว์ความเหนือ แต่คุณต้องเตรียมสมองเพื่อจดจำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในรายการ ตั้งแต่ก่อนเข้ารายการยันพักเบรกโฆษณา “I Literally Just Told You”
I Literally Just Told You คือรายการอะไร
รายการนี้คือรายการควิซโชว์ที่เกือบทุกคำถามนั้น เป็นคำถามสดจากทีมคิดคำถามที่นั่งกันอยู่ในฉาก โดยแหล่งของคำถามนั้น มาจากเหตุการณ์ตั้งแต่กล้องรัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงก่อนเข้ารายการ ระหว่างนั่งตอบคำถาม ตรงฉากรายการ ที่นั่งผู้ชม นั่นรวมไปถึงสารพัดวิธีที่ทีมงานจะเพิ่มข้อมูลเข้าไปไม่ว่าจะเป็นจู่ๆ สัญญาณไฟไหม้ก็ดัง วงดนตรีเม็กซิกันมาจากไหนก็ไม่รู้ ดาราจากสตูดิโอข้างๆ เดินเข้ามาแบบงงๆ รวมไปถึงโฆษณาปลอมที่ทีมงานใช้ความอุตสาหะในการทำ
โดยรายการนี้เริ่มออกอากาศทาง Channel 4 ครั้งแรกเมื่อ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2564 (ปีที่แล้ว) โดยได้นักแสดงตลกมุกหน้าตายสัญชาติบริทิช-ไอริชอย่าง Jimmy Carr มานั่งแท่นพิธีกร
โชว์นี้มีที่มาอย่างไร
Richard Bacon ผู้ผลิตรายการนี้ได้ให้สัมภาษณ์กับหลายสื่อไว้ประมาณว่า “ปกติแล้วคนส่วนใหญ่เนี่ยจะมีปัญหากับเรื่องความจำระยะสั้นมาก ถึงขนาดที่ว่า ถ้าผมให้คำตอบกับผู้เล่นและผู้ชมกลางรายการแล้ว คนก็ยังตอบผิดอยู่ดี”
Jimmy Carr พิธีกรของรายการฯ ก็ให้สัมภาษณ์กับหลายๆ สื่อว่า “ผมว่าไอเดียรายการนี้แม่งเจ๋งที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา และผมก็เชื่อว่ารายการนี้ก็จะอยู่กับช่องไปอีกสักพัก”
แล้วกติกาของรายการนี้ล่ะ
รายการนี้ใช้ผู้เล่น 4 คนด้วยกัน โดยมูลค่าของแต่ละคำถามจะเริ่มตั้งแต่ £250 และจะเพิ่มมูลค่าไปเรื่อยๆ จนถึง £2,500 โดยผู้เล่นที่ชนะรายการนี้จะได้เงินรางวัลตามที่พวกเขาสะสมได้ โดยในรายการจะแบ่งรอบคำถามไว้ดังนี้
- Candidate Introduction
พิธีกรจะถามคำถามที่ได้มาจากสคริปที่ผู้ประกาศแนะนำผู้เล่นเมื่อไม่นานมานี้ หลายคนคงคิดว่าง่าย แต่คุณลองนึกสภาพดูว่า รายการแนะนำแค่ชื่อ อาชีพที่ทำ ประสบการณ์ที่เคยเจอ พ่วงไปด้วยคำสร้อยที่ทีมงานเติมมาให้ทำไมก็ไม่ทราบด้วย ทั้งหมด 4 คน นั่นคงทำให้คุณปวดหัวไม่น้อย
- Money Maker Questions
ผู้เล่นจะต้องตอบคำถาม 5 ข้อเพื่อสะสมเงินรางวัลเข้าตัวเอง โดยทั้ง 5 ข้อนั้น จะใช้ชุด 3 ตัวเลือกชุดเดิมทั้งหมด
- Memory Round 1
ผู้เล่นจะต้องตอบคำถามอะไรก็ได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือจากสิ่งที่ถูกพูดถึงในรายการ ในระหว่างนี้รายการก็เริ่มรังสรรค์ข้อมูลนรกให้กับผู้เล่น ตัวอย่างเช่น เอาเครื่องดื่มมาให้ก่อนตัดเบรก พิธีกรจอมแกล้งทำอะไรแปลกๆ ขึ้นมา หรือแม้แต่เรียกประชุมทีมงานกลางการถ่ายทำก็มี ผู้ที่มีเงินรางวัลน้อยสุดในรอบนี้จะตกรอบไป
- Fake Ad Break
ช่วงนี้ถือว่าแสบใช้ได้สำหรับรายการ และผมว่ามันน่าจะเป็น Signature ของรายการนี้ไปแล้ว โปรดิวเซอร์เขาจะสั่งพักเบรกในรายการเพื่อไปรันโฆษณา แต่ไอ้โฆษณาที่ว่าเนี่ย ไม่ใช่โฆษณาจริงของช่องแต่อย่างใด แต่มันดันเป็นโฆษณาที่ทีมงานรังสรรค์ขึ้น ซึ่งอุดมไปด้วยข้อมูลมากมาย เพื่อเอาไว้ตลบหลังผู้เล่นในรอบต่อไป
- Memory Round 2
ผู้เล่นจะต้องตอบคำถามอะไรก็ได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือจากสิ่งที่ถูกพูดถึงในรายการ ในระหว่างนี้รายการก็เริ่มรังสรรค์ข้อมูลนรกให้กับผู้เล่นเพิ่มเติม เช่น นักแสดงเดินเข้ามาคุยกับพิธีกรบ้าง ตัวพิธีกรไปจุ้นจ้านวุ่นวายผู้เล่นที่ตกรอบไปบ้าง หรือจู่ ๆ ก็ฉายคลิปคนในวงการที่ถ่ายส่งมาให้ก็มี และผู้ที่มีเงินรางวัลน้อยสุดในรอบนี้จะตกรอบไปอีกคน
- Final Shoot Out
รอบนี้ผู้เล่นที่เหลือทั้งสองคน ต้องตอบคำถามรูปแบบเดียวกันกับรอบ Memory Round แต่คนตั้งคำถามในรอบนี้นั้น จะเป็นตัวผู้เล่นเอง แล้วให้ผู้เล่นอีกคนตอบ (เหมือนยิงลูกโทษบอลช่องสามนั่นแหละครับ) ใครได้คะแนนมากกว่าจะเป็นผู้ชนะทันที หากเสมอกันก็วัดแบบ “ถูก-ถูก” “ผิด-ผิด” ไปต่อ / “ถูก-ผิด” คนถูกชนะ (ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็ตัดให้จบภายในสามข้ออยู่ดี) เท่าที่เห็นสคริปมา จะเตรียมไว้ 3 แผ่น โดยแต่ละจะเตรียมไว้ 6 ข้อ นั่นเท่ากับว่าเขาเตรียมคำถามไว้ 18 ข้อ ซึ่งเยอะพอสมควรเลยทีเดียว (กันเสมอได้ดีเยี่ยม)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของรายการ
- ครั้งหนึ่งรายการนี้เคยได้รับโอกาสพิเศษจาก Channel 4 ให้ออนแอร์รายการนี้ฉบับ 6 ชั่วโมงติดในช่วงปีใหม่ (นึกว่ารายการของประเทศญี่ปุ่นในช่วงปีใหม่เสียอีก)
- รายการนี้ในเวอร์ชั่นสหรัฐอเมริกา กำลังอยู่ในการพัฒนาภายใต้ช่อง NBC
- ในตอนที่ 4 ซีซันแรกของรายการ เผอิญว่าทีมงานคำถามลืมเช็คคำตอบ แล้วทำให้ผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งแพ้ไป ภายหลังจากการถ่ายทำ ผู้เข้าแข่งขันคนนั้นรู้ว่าคำตอบผิดเลยไปทักท้วงกับรายการและก็ได้เช็คเงินรางวัลมูลค่าเดียวกันกับฝ่ายตรงข้าม (£18,000) กลางเวทีใน “Terribly Funny” ทัวร์ Standup Comedy ของ Jimmy Carr
และนี่คือหนึ่งในรายการที่ผมแนะนำครับ เป็นควิซโชว์ที่ไม่ต้องเครียดเลย นั่งรอดูความสนุกสนานและความปั่นป่วนภายในรายการลูกเดียว หรือจะดูเพื่อลองทดสอบความจำตัวเองดูว่าจะจำอะไรในรายการได้บ้างภายในหนึ่งตอน ถ้าเป็นไปได้อยากจะเชียร์ให้ประเทศไทยทำนะ เบาสมองดี ส่วนครั้งหน้าผมจะแนะนำเกมโชว์ตัวไหนอีก รอติดตามอ่านกันนะครับ
