fbpx

ถ้าพูดถึง “การแต่งชายให้กลายเป็นหญิง” หลายๆคนอาจจะนึกถึงว่า “เอ๊ะ ต้องเป็นตุ๊ดหรือกะเทยหรือเปล่า?” หรืออาจจะมีคำถามต่างๆนานา โดยเฉพาะคำถามประเภทเบี่ยนเบนทางเพศที่ทุกๆคนต้องสงสัยแน่ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นเรื่องที่สื่อโทรทัศน์ครอบงำอยู่ไม่น้อยว่าการที่ผู้ชายแต่งเป็นหญิง ไม่ไปเป็นนางโชว์หาเงินแล้วลูกตามหาเจอจนยอมรับไม่ได้ ก็คงต้องเป็นตุ๊ดแน่ๆล่ะ (ต้องบวกกับท่าทางตุ๊ดแต๋วด้วยนะ ถึงจะสมบูรณ์แบบ) แต่ในวันนี้ ส่องสื่อ จะพาคุณมาเปิดอีก 1 มุมมองของวัฒนธรรมใหม่ที่กำลังจะเข้ามาเต็มตัวผ่านรายการ International Format อย่าง “Drag Race Thailand” ที่กำลังจะลงจอ Line TV ตอนแรกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้แล้ว ว่าจริงๆแล้วผู้ชายแต่งหญิง จริตหญิงนี่มันคืออะไรกันแน่? แล้วผู้ชายแต่งหญิงต้องเป็นตุ๊ดอย่างเดียวเหรอ? วันนี้เราจะมาหาคำตอบนี้ผ่าน 1 ใน 10 ผู้เข้าแข่งขันของรายการอย่าง “กฤตเมธ สีถาน” ที่ทั้งเคยเป็นนางโชว์ และตอนนี้เป็น Drag Queen ในฉายา “Bunny Be Fly” อีกด้วย ลองเปิดใจรับมุมมองใหม่ๆผ่านบทสัมภาษณ์นี้กันครับ…

รู้ก่อนว่าเขาคือใคร?

กฤตเมธ สีถาน หรือฉายาแดร็คคือ “Bunny Be Fly” เธอจบการศึกษาจากคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ ภาควิชาภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เธอเคยติด 1 ใน 6 ชุดประจำชาติของกองประกวด Miss Universe Thailand ปี 2017 โดยชุดที่เธอออกแบบมีชื่อว่า “พัพเพ็ททรี ออฟ สยาม” (ข้อมูลจาก ข่าวสด) นอกจากนั้นเธอยังเป็นครูสอนศิลปะ และรับงานตัดเย็บชุดแฟนซี ชุดคอสเพลย์ ชุดอลังการงานสร้างต่างๆ รวมถึงการสร้างผลงานศิลปะเธอก็ทำมาแล้ว (ชมผลงานได้ที่นี่) และที่สำคัญคือเธอ “เคยเป็นนางโชว์” มาก่อนด้วยนะ ส่วนฉายาว่า “Bunny Be Fly” ก็เกิดมาจากคณะและมีของติดตัวเป็นยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบินด้วยนะเออ…

เราเป็น Drag Queen ได้อย่างไร? 

Bunny : ก็เราทำงานเป็นนางโชว์กับพวกผู้หญิงข้ามเพศ บนเวทีเราเป็นผู้หญิงข้ามเพศแต่พอลงเวทีเราเป็นเด็กผู้ชายคนนึง นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเป็น Drag Queen คะ

ทัศนคติของ Drag Queen ในสังคมไทยเป็นอย่างไรบ้าง?

Bunny : จริงๆแล้ว บ้านเรายังไม่มีวัฒนธรรมที่แน่ชัด การมาอยู่ตรงนี้มันก็เหมือนการมาบุกเบิกเพราะฉะนั้นมันก็จะมีความยูนีคของแต่ละคน คือ บ้านเราหลายๆอย่างมันยังจะต้องสวย Drag Queen ต้องสวย แต่ทุกคนกลับลืมไปว่าความเป็นเฉพาะตัวและความไม่เหมือนกันของแต่ละคน มันจะต้องเกิดจากการสร้างสรรค์ เพราะฉะนั้น Drag Queen คือความสร้างสรรค์ เราไม่สามารถสวยได้ในแบบผู้หญิง แต่อาจจะมีบางคนเป็นผู้หญิงไปเลย อันนี้คือในบ้านเราเองเท่าที่คลุกคลีมายังเข้าใจแบบนั้นอยู่ ในขณะที่เมืองนอกเค้าไม่ได้สนใจเลย ไม่ว่าจะตัวใหญ่กล้ามโตอะไรมา คุณมีความ Create ใส่เข้าไปก่อน ตรงนี้ที่เราจะต้องสร้าง เป็นกระบอกเสียงให้คนเข้าใจว่า Drag Queen ต่างจาก Show Girl บ้านเรานะ เพราะบ้านเรามีผู้หญิงข้ามเพศที่เป็นนางโชว์อยู่แล้วซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของไทย 

คนไทยยังคิดว่า Drag Queen ต้องเป็นตุ๊ดหัวโปกเท่านั้น?

Bunny : ก็ไม่นิ ก็เท่าที่รู้จักมา ฝรั่งหลายคนเป็นรุกก็มีนะ ไม่จำเป็นที่จะต้องสาว อย่างตัวพี่เองก็ไม่ได้สาวจ๋า ในการใช้ชีวิตของพี่ก็ยังดูเป็นเด็กผู้ชายคนนึงด้วยซ้ำไป แต่เรามีความรู้สึกว่าในเวลานึงที่เรารักสนุก เราอยากจะแต่งหญิง เราไม่ได้อยากจะแต่งตลอดเวลา แต่พอมีโอกาสมาเนี่ย เราก็อยากที่จะ Create ทุกอย่างออกมาให้เต็มที่ เพราะฉะนั้นแล้ว มันไม่เกี่ยวกับความที่ต้องสาว ต้องเป็นตุ๊ดหัวโปก เทคยาคุมไหม? เทคฮอร์โมนไหม? มันไม่เกี่ยว คุณเป็นอะไรก็คือเป็น Drag หมด ถ้าคุณเป็นผู้ชายแล้วแต่งให้เป็นหญิง Drag มันคือสไตล์ มันคือคำว่า Drag จริงๆ ไม่ใช่บ่งบอกว่าคนเป็น Drag Queen คือต้องเป็นตุ๊ดนะ เป็นกะเทยนะ เป็นเกย์นะ มันไม่จำเป็น คุณเป็นผู้ชายแท้ๆมาแต่งเป็นผู้หญิง แล้วคุณหากินจากตรงนั้น ขอท้าวความถึงอดีต คุณจาตุรงค์ มกจ๊ก แต่ก่อนเขาแต่งหญิงสวยเลยนะ อันนั้นก็นับว่าเป็น Drag Queen เหมือนกันนะ น่าจะเป็นคนแรกๆเลยด้วยซ้ำไป เพียงแต่ว่าไม่ได้เป็นที่ยอมรับว่าเป็น Drag ในวงกว้างมากเท่าไหร่ อย่างว่าวัฒนธรรมบ้านเรากับบ้านเขามันไม่ได้เหมือนกันแหละ

รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้เข้ามาเป็น 1 ใน 10 ผู้เข้าแข่งขันของรายการ?

Bunny : จริงๆแล้ว เราแขวนส้นสูงมา 4 ปีแล้ว เราเลิกจากการเป็นนางโชว์ก่อน เราทิ้งมันไปนาน แล้วเราก็รู้สึกคิดถึง เราจึงพยายามหาวิธีต่างๆให้ตัวเองได้กลับมาในจุดๆนี้ เราเลยมองเห็นช่องทางการเป็น Drag Queen ทีนี้พอดีทางกันตนาก็ติดต่อเข้ามา เราเชื่อว่าที่เขาติดต่อมาก็อาจจะมาจากผลงานเกี่ยวกับผู้เข้ารอบ 6 คนสุดท้ายของชุดประจำชาติปีนี้ ประกอบกับการสืบประวัติ เรามีความใกล้เคียงกับการเป็น Drag เรามีความสามารถ เรามีศักยภาพ แล้วเราก็เป็น Designer ด้วย เราเป็นช่างตัดเย็บก็ได้ เป็นช่างทำผม ช่างแต่งหน้าก็ได้ ตรงนี้เราเชื่อว่ามันเป็นความครบของตัวเรา ซึ่งเขาอาจจะเล็งเห็นความพร้อมตรงนี้ และเชิญเราเข้ามา

– เรามีความใกล้เคียงกับการเป็น Drag เรามีความสามารถ เรามีศักยภาพ – 

การได้มาเป็น 1 ในผู้เข้าแข่งขัน มันมีความกดดันมากน้อยแค่ไหน?

Bunny : ความรู้สึกของตัวเราเอง คือ เราค่อนข้างกดดันตรงที่ว่า คนดูติดภาพของต้นฉบับมาแล้ว แต่อย่าลืมว่าบ้านเราก็มีความเป็นเฉพาะทางในความดั้งเดิมหลายๆอย่าง เราอาจจะไม่สุดในแบบที่ฝรั่งสุด แต่เราสุดในแบบที่ฝรั่งสุดแบบเราไม่ได้ ธรรมชาติของคนแต่ละประเทศมันก็ต่างกัน ฉะนั้น เราเอาของเขามาทำ เราก็ทำให้เป็นแบบฉบับของเรา จริงๆแล้วพอมานึกถึงตรงนี้ เราจะรู้สึกได้เลยว่าความกดดันเรามันหายไป แล้วที่สำคัญอย่างนึงคือ การเข้ามาเป็น Drag ทุกคนต้องทำการบ้านอยู่แล้ว ทุกคนต้องหาตัวตนว่าอยากเป็นอะไร อย่างเช่นตัวบันนี่เนี่ย เจอตัวตนของตัวเอง ชอบแบบไหน มีแนวไหน ชอบลักษณะแบบไหน มีสไตล์แบบไหน เพราะฉะนั้นแล้ว ความกดดันตรงนี้มันค่อยๆหายไป เพราะว่าเราจะต้องหนักแน่นกับความเป็นตัวของตัวเราเองก่อน คุณจึงจะเรียกตัวเองว่าเป็น Drag Queen ได้ 

– เราอาจจะไม่สุดในแบบที่ฝรั่งสุด แต่เราสุดในแบบที่ฝรั่งสุดแบบเราไม่ได้ –

สิ่งที่คนดูจะได้รับจากการเปิดดู Drag Race Thailand?

Bunny : จริงๆแล้ว ถ้าเปรียบเทียบกันกับเมืองนอกก็ไม่เหมือนกันนะ ความสนุกก็คนละแบบ ในความรู้สึกของเรามันสนุกแน่นอน เพราะว่ามันจะได้อรรถรสบางอย่างที่คนไทยดูแล้วเข้าใจ มันไม่ใช่คนไทยหัวฝรั่งด้วยนะ มันเป็นคนไทยแท้ๆ แล้วมันยังเป็นข้อดีอีกด้วยที่จะกระจายวัฒนธรรมพวกนี้เข้ามาเราเชื่อว่าหลายๆคนรอที่จะให้มีกลุ่มวัฒนธรรมพวกนี้ เพราะก็มีความฝันที่อยากจะเป็น Drag Queen เหมือนกัน เพีงแต่ว่าเราไม่ได้เปิดเป็นจริงเป็นจัง ครั้งนี้แหละ ที่เรากำลังจะนำพาสิ่งๆนี้เข้ามา แล้วจะได้สานต่อกัน ในซีซัน 1 มันอาจจะยังไม่สมบูรณ์ ซีซั่นถัดไป Queen ในแต่ละซีซั่นเรียนรู้จากอดีตได้ว่าจะเป็บแบบไหน เตรียมตัวแบบไหน ทุกอย่างเป็นประสบการณ์ได้หมด สนุกแน่นอน ไม่ต้องห่วง มันคือ debut อ่ะคะ มันคือ Original แล้ว Queen ที่คัดมา 10 คนในครั้งนี้ ทุกคนมีความไม่เหมือนใครกันหมด ไม่มีใครทับไลน์ทางใครเลยแม้แต่คนเดียว และที่สำคัญเกมส์นี้มันพลิกได้ตลอด ไม่มีใครถือไพ่เหนือใคร ไม่มีใครเป็นตัวเต็ง ใครพลาดคนนั้นหลุดเท่านั้นเอง ใครสติขาดคนนั้นหลุด ใครไม่แกร่งคนนั้นหลุด แต่ทุกคนเก่งกันหมดเลย เท่าที่สัมผัสมาแต่ละคน เชื่อมั่นอย่างนั้น

ฝากรายการหน่อย

Bunny : ก็ฝากไปถึงแฟนๆนะคะ อย่างแรกเราอาจจะฝากไปถึงแฟน RuPual ว่ามันกำลังเข้ามาบ้านเราแล้วเราควรจะส่งเสริมคนในชาติกันเอง ถ้าคุณอยากจะให้มีวัฒนธรรมนี้ อย่าบอกว่าเราไม่พร้อม เราเห็นในเพจว่าบ้านเรายังไม่พร้อม แล้วถ้าไม่เริ่ม เมื่อไหร่จะมีเข้ามาให้เห็น เมื่อไหร่ที่คุณจะได้รับโอกาสที่คุณอยากเป็น  มันก็ต้องมีกลุ่มสังคมเป็นพื้นฐานให้ก่อน ไม่ใช่ว่าคุณอยู่ดีๆจะมาแต่งแร้งแต่งกา อย่างที่เรารู้ว่าสังคมเก่าๆเราก็จะมองแปลกๆ แต่ถ้าเราสร้างความรู้ให้กับคนในบ้านเรารู้ว่ามันเป็นแบบนี้ คนแยกแยะออกระหว่าง “กะเทย” กับ “Drag Queen” ออกนั่นแหละ แล้วคุณจะเดินได้อย่างราบรื่นขึ้น เรากำลังเอาหนามกุหลาบออกให้คุณ เรากำลังพยายามโปรยกลีบกุหลาบให้คุณ เพราะฉะนั้นแล้ว ส่งเสริมกันคะ ซีซัน 1 มันอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบ 100% แต่ในซีซั่นถัดๆไป ไม่ว่าจะทีมงาน ไม่ว่าจะเป็น Drag Queen หรือคนอื่นต่อๆไป มันจะค่อยๆเติบโตขึ้น เพราะอย่าลืมว่าบ้านเราไม่ได้แพ้ใครเลย ไม่แพ้เลย บ้านเรากะเทย Create กันยิ่งสุด วัตถุดิบบ้านเราก็ไม่ได้เป็นรองนะ เป็นต่อมาก การทำ Create ชุด เราเห็นกันอยู่แล้ว เราควรจะเชื่อมั่นในศักยภาพคนไทยด้วยกันเอง อย่าคาดหวังว่าเราจะต้องเหมือนกับต้นฉบับ ฝรั่งก็คือฝรั่ง คนไทยก็คือคนไทย ถ้าฝรั่งกับคนไทยเหมือนกัน ถามว่าฝรั่งจะต้องมาเที่ยวเมืองไทยทำไม? ไทยจะต้องไปเที่ยวฝรั่งทำไม? เพราะความแตกต่างเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ตรงนี้ฝากด้วยนะคะ ไปถึงคนที่ยังไม่เปิดใจ เปิดใจซะคะ วันหนึ่งพอเราไปตรงนี้เสร็จปุ๊บ คุณจะมีเส้นทางตรงนี้และคุณจะรู้สึกได้เลยว่าคิดถูกที่สนับสนุนพวกเรา