fbpx

หลังจากที่ “ส่องสื่อ” พาคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ Host และ Co-Host รวมไปถึงผู้เข้าแข่งขันกันไปบ้างแล้ว คราวนี้จะขอนำผู้เข้าแข่งขันอีก 1 ท่านทีึ่มีสโลแกน (ที่ออกจะ Tie-In นิดๆ 555) อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง นั่นก็คือ #น้ำดื่มมังกรเขียวใช้กินใช้กรวดในขวดเดียวกัน #รักใครชอบใครให้กดlikeรูปNatalia เราจะพาคุณไปรู้จักถึงวิถีการแต่ง Drag การเข้ามาแข่งขันในรายการ รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ แบบกระชับและเข้าใจง่ายไปกับเขาคนนี้ “Natalia Pliacam” ลองไปอ่านกันเลยดีกว่าครับ…

แนะนำตัวเองก่อน

Natalia : สวัสดีค่ะ ชื่อ “นาตาเลีย เพลียแคม” ปัจจุบันอายุ 37 ปี เป็นเจ้าของธุรกิจร้านขายหีบศพอยู่ที่เยาวราช แล้วก็มีธุรกิจอย่างอื่นด้วย

จุดเริ่มต้นของการแต่ง Drag

Natalia : ก็คือในอดีต เราก็เป็นคนชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว แล้วก็มีโอกาสได้ประกวด “Miss ACDC” ปี 2006 ก็ได้ตำแหน่งมา แล้วก็หลังจากนั้นก็มีแต่งตอนโชว์ แต่ว่าการโชว์ของเราเนี่ย เราจะไม่ได้เน้นว่าจะต้องแต่งเหมือนผู้หญิงนะคะ เพียงแต่ว่าเราจะใส่ความเป็นแฟชั่นลงไปด้วย แล้วก็ใส่ความเป็น Charisma ในแบบตัวตนของเราลงไป ใส่คาแรคเตอร์ลงไปเพื่อเป็นจุดดึงดูด เพราะว่าเราจะไม่เหมือนพวกนางโชว์ที่อยู่ตามโรงละครที่จะต้องมาแต่งหน้าหวานอะไรแบบนี้

ในการแต่ง Drag ประสบพบเจออะไรบ้างที่พีค?

Natalia : ในช่วงแต่งแรกๆ ก็ที่บ้านถามว่า “ทำไมอยู่ดีๆถึงลุกขึ้นมาแต่งหน้า” อะไรแบบนี้ค่ะ ในตอนต้นๆก็จะบอกเขาว่า “มีงานโรงเรียน” อะไรแบบนี้ แต่พอหลังๆเขาก็เข้าใจแล้ว เขาก็เปิดกว้าง ซึ่งเป็นความโชคดีมากที่บ้านเปิดกว้างยอมรับ ถ้านอกจากนั้นก็จะเป็นเรื่องของไซส์ของเราที่เราไม่สามารถไปหาเช่าชุดได้ เนื่องจากว่าเป็นไซส์ที่ใหญ่พิเศษกว่าคนอื่น ฉะนั้นมันก็ต้องมีการตัดชุดขึ้นมาใหม่ มันทำให้ตรงนี้เป็นจุดพีคเราที่เวลาบางทีมีงานด่วนเข้ามา หรือต้องการที่จะให้ตรงกับธีมที่เราต้องการ เราจะต้องทำใหม่อยู่ตลอดเวลา

ระหว่างบุคลิกแบบชายกับบุคลิกแบบ Drag ชอบอันไหนมากกว่ากัน?

Natalia : ต้องบอกก่อนนะว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ในบุคลิกไหนก็ตาม เราคิดว่าเกิดมาทั้งที เราภูมิใจกับทุกบุคลิกที่เราเป็น เพียงแต่ว่าเราจะแสดงสวมบทบาทในบุคลิกนั้นหรือเปล่า? ถ้า ณ วันนี้เราจะต้องแสดงความเป็นนาตาเลีย เราก็คือนาตาเลีย แต่เมื่อไหร่ที่เราถอดวิก ลบหน้าปุ๊ป เราอยู่ในช่วงสังคมที่มีความเป็น “พี่หนูหนึ่ง” หรือแบบบุคลิกชาย เราก็คือแบบนั้น เพราะฉะนั้นเป็นคนที่ไม่ได้รู้สึกแบบว่า แต่งแบบไหนดีกว่ากัน แต่จะตั้งใจว่าทำอะไร ณ ตรงนั้นให้ดีที่สุดดีกว่า

วัฒนธรรม Drag ในประเทศไทยเป็นยังไงบ้าง?

Natalia : ตอนนี้สังคมในประเทศไทยเปิดกว้างของความเป็น LGBT มากแต่ Drag Queen ในประเทศไทย เรายังโดนคนที่ไม่เข้าใจ Drag Queen มองว่าเราคือตุ๊ดหรือกะเทยอยู่ ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่นะ ความเป็น Drag Queen มันคือศิลปะ มันคือศิลปิน มันมีศาสตร์และศิลป์หลายๆอย่างประกอบกันเยอะมาก มันไม่ใช่แค่เป็นตุ๊ดกะเทยแต่งหน้า กว่าคนๆหนึ่งจะคิดและสร้างสรรค์บุคลิกในการแต่งหน้า ทำผม เสื้อผ้า กริยาท่าทางที่จะต้องออกไปสู่สังคม คือมันต้องผ่านกระบวนการคิด มันมีขั้นตอนในการทำ เพราะฉะนั้นอย่าเหมารวมว่าเราคือตุ๊ดหรือกะเทย หรือแต๋วหรือว่าสายเหลือง จริงๆคนเหล่านี้เขามีคุณค่าของตัวเองอยู่แล้ว มีความคิดในแบบที่ตัวเขาเป็น แต่ Drag queen คืออีกหนึ่งความคิดของคนหลากหลายในสังคมมนุษย์ที่มันถูกสร้างสรรค์ขึ้น ซึ่งมันใส่ความเป็นศิลปะเข้าไปเยอะมาก เพราะฉะนั้นก็อยากจะให้สังคมภายนอกที่ยังไม่เข้าใจว่า Drag Queen คืออะไร? ทำความเข้าใจนิดนึง เราคือคนๆหนึ่งในสังคมเหมือนกัน มันต่างกันแค่ภาพลักษณ์ ณ เวลานั้น เพราะทุกคนที่เป็น Drag Queen พอถึงช่วงเวลาในการใช้ชีวิต ก็เป็นอีกคนหนึ่ง เวทีของ Drag Queen สังคมของ Drag Queen คือสังคมที่สนุกสนาน สังคมที่มีความสร้างสรรค์ สังคมที่ได้ปลดปล่อยศักยภาพของตัวเอง เราคงไม่บอกเหมือนคนอื่นว่า “เฮ้ย! ขอพื้นที่ในสังคม ในเราได้แสดงศักยภาพทัดเทียม ชายจริงหญิงแท้” เออ อันนี้เราคิดว่ามันเชยไปแล้ว สิ่งที่เราจะบอกคือ เราไม่จำเป็นต้องไปขอพื้นที่ แต่เราคือคนหนึ่งคนที่สามารถใช้พื้นที่บนโลกใบนี้เทียบเท่ากับทุกคน เพียงแต่ว่าจะแสดงออกแบบไหนเท่านั้นเอง 

สื่อมีผลต่อความคิดเรื่องความหลากหลายทางเพศไหม?

Natalia : สื่อมีอิทธิพลมาก ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอในสิ่งที่ถูก ในสิ่งที่ผิด ในสิ่งที่ใช่หรือไม่ใช่ แต่ถ้าสมมุติว่า ในสังคมเราก็มีสื่อน้ำดีจำนวนไม่น้อย ที่พร้อมสนับสนุน ผลักดัน และมองว่า Drag Queen คือศิลปะที่จะเสริมให้มันเกิดขึ้น เราก็คิดว่าสื่อในสังคมไทยปัจจุบันที่เข้าสู่ยุค 4.0 ที่มีสื่อสังคมออนไลน์เป็นนวัตกรรม มันค่อนข้างที่จะทำอะไรได้เร็ว จากแต่ก่อนเป็นแค่ปากต่อปาก แต่เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่ แค่กดไลก์ แสดงความคิดเห็น และแชร์ คุณสามารถรับรู้ข่าวสารได้แล้ว เพียงแต่ว่าตัวเราเองที่ต้องเป็นคนพิจารณาและใช้วิจารณญาณว่าอะไรคือใช่หรือไม่ใช่ บนโลกใบนี้มันมีทั้งดีและไม่ดี มีทั้งถูกและผิด เพราะฉะนั้นอาจจะต้องใช้วิจารณญาณในการเสพสื่อให้ถูกต้องว่าเรากำลังนำเสนออะไร? อะไรคือจุดพีค อันนี้คือความสนุกสนาน อันนี้คือความบันเทิง อันนี้คือสาระ อันนี้คือเราต้องเสพ

การก้าวมาสู่ 1 ใน 10 ของ Drag Race Thailand

Natalia : จริงๆแล้วในชีวิตผ่านอะไรมาเยอะมาก รายการนี้เป็นรายการดังจากเมืองนอก เราก็รู้สึกว่า “เฮ้ย! อันนี้มันตอบโจทย์” คือมันไม่ได้ตอบโจทย์ความเป็นเกย์นะ มันตอบโจทย์ความเป็นศิลปินที่เป็น Drag Queen ที่มีการแต่งหน้า ทำผม มีการใส่กิจกรรมต่างๆลงไป มีการคิดความท้าทายใหม่ๆขึ้น มีการสร้างจุดขายของตัวเอง เราก็เลยคิดว่ามันน่าลอง ถึงแม้ว่าอายุเราจะเข้าใกล้หลักสี่ (40 ปี) แล้ว แต่เราคิดว่าประสบการณ์ที่ผ่านมา มันน่าจะทำให้เราน่าสนใจขึ้นในการแข่งขัน

ความแตกต่างกับคนอื่นๆในรายการ

Natalia : เรามีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน ในนี้เราก็เป็นคนที่จะชอบเพชรมากๆ ชุดที่ใช้ในการแต่งกายส่วนใหญ่ก็เน้นความหรูหรา แล้วก็จะมีความเวอร์วังอลังการ อันนี้ก็จะเป็นคาแรคเตอร์ของเรา แล้วก็เป็นในลักษณะของความเป็นชายก็จะดูแตกต่าง จะไม่มีใครจำเราได้ คือพอเราเป็นชายแล้วเราก็จะดูตาตี่ๆ ใส่แว่นธรรมดา

มีอะไรสนุกๆในการแข่งขันบ้าง?

Natalia : มันไม่ใช่แค่การแข่งขันเรียลลิตี้ทั่วไป มันมีความท้าทายเกิดขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเรามานั่งบอกเฉลยโจทย์ตอนนี้ไม่สนุกแน่ๆ ให้ติดตามในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ทางไลน์ทีวี แล้วก็คอยติดตามข่าวสารการเปิดรับสมัครในซีซันต่อๆไปด้วย ให้มาสมัครกันเยอะๆ เพื่อเราจะได้มีการรับรู้และความเข้าใจเรื่อง Drag Queen ในประเทศไทยมากยิ่งขึ้นว่าบุคคลเหล่านี้คือเพศสร้างสรรค์ และความเป็น Drag ไม่ได้จำกัดเฉพาะสาวประเภท 2 เกย์ กะเทย แต่ทุกคนสามารถเป็น Drag ได้ แล้วแต่ใจตัวเองอยากจะสร้างสรรค์อะไรออกมา 

Drag Race Thailand จะให้อะไรกับสังคม?

Natalia : อันดับแรกเลยคือ “ตัวตน” ในเมืองไทยมีน้อยคนนักที่จะรู้จักว่า Drag Queen คืออะไร? รายการนี้จะเป็นตัวปฐมบทของการบอกว่า Drag Queen ในแบบฉบับของคนไทย มีจุดเริ่มต้นแบบนี้ มันคือการบอกตัวตนว่าเรากำลังทำอะไรอยู่? แล้วมันจะเป็นตัวที่เปลี่ยนแปลงความคิดว่า Drag Queen มันไม่ใช่แค่สายเหลือง ตุ๊ด แต๋ว กะเทย ทอม ดี้ LGBT คือใครๆก็แต่ง Drag ได้ ใครก็ได้ที่อยากจะแสดงความสามารถของตัวเอง โชว์ความคิดสร้างสรรค์ แล้วก็สร้างบุคลิกของตัวเองมา ทุกคนสามารถเป็น Drag ได้บนโลกใบนี้

ฝากให้คนดูหน่อย

Natalia : ก็อยากฝากทุกคนให้กำลังใจ “นาตาเลีย เพลียแคม” ถึงแม้ว่าอายุจะใกล้ 40 แล้ว แต่รับรองว่าเราก็สู้สุดใจเหมือนกัน และที่สำคัญก็อยากจะให้ติดตามรายการด้วย ไม่ใช่แค่เราอย่างเดียว ทั้งทาง Facebook Fanpage ทางช่องของ Line TV หรือทาง Instagram หรือบุคคลที่อยู่ใน Drag Race ทั้งหมดนะคะ คอยติดตามข่าวสาร แล้วคุณจะรู้ว่ามันมีอะไรสนุกกว่าที่คิด แล้วหนึ่งในนั้นที่สำคัญคือ จะต้องได้เห็นนาตาเลียในอีกแง่มุมหนึ่งที่อายุไม่ใช่เป็นตัวกำหนด