fbpx

ปีใหม่นี้ หลายๆคนอาจจะกำลังหาภาพยนตร์ที่น่าสนใจ เพื่อไปรับชมกับเพื่อนหรือครอบครัว หรือแม้กระทั่งคนเดียวก็ตามกันอยู่ใช่ไหมครับ? วันนี้ผมมีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ผมได้หลงเข้าไปชม แต่มันทิ้งอะไรไว้ให้คิดหลายอย่างมากๆ ภาพยนตร์เรื่องนั้นก็คือ “Instant Family : ครอบครัวปุ๊บปั๊บ” เป็นภาพยนตร์ที่ผมหลงเข้าไปชมจริงๆ (เพราะซื้อตั๋วว่าจะชมกรีนบุ๊คไว้ แต่เข้าผิดโรงซะงั้น ToT) แต่พอได้ชมไปเรื่อยๆ ก็ได้เห็นภาพสะท้อนหลายๆอย่าง เลยจะมาเขียนบอกเล่ากันนะครับ

เมื่อลูกในท้องไม่พร้อม ก็ขอออกหาลูกไม่แท้ล่ะกัน

เรื่องราวเริ่มเล่าด้วยคู่สามีภรรยาที่บางครั้งก็อ๊องๆใส่กัน ทำธุรกิจรับรีโนเวตบ้านมือสอง ต้องการที่จะมีลูกด้วยกันเพียงเพราะต้องการเติมเต็มภายในใจของกันและกันเท่านั้น จึงได้ไปพบเว็บไซต์สถานรับเลี้ยงเด็กและเยาวชน และเริ่มเข้ากระบวนการเป็นพ่อแม่ของเด็ก จนกระทั่งเมื่อครบหลักสูตรจึงได้ไปดูเด็ก และได้พบกับเยาวชนคนหนึ่งที่ถูกชะตากัน จึงได้รับเข้ามาเลี้ยงพร้อมกับน้องของเขาอีก 2 คน เรื่องราวจึงเริ่มสร้างความชลมุนมากยิ่งขึ้น เพราะต่างคนต่างวัยกัน และต่างคนก็ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันด้วยเช่นกัน

ไม่อยากเล่าหมด เพราะกลัวจะไม่ได้ดูภาพยนตร์ตัวเต็มกันจริงๆ อยากให้ไปดูกันจริงๆนะ
แต่ทีนี้จะมาขอเล่าถึงสิ่งที่ได้จากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้กันบ้างดีกว่าครับ

ก่อนที่จะเลี้ยงเด็ก ต้องเข้าใจเด็กก่อน

ข้อนี้ยกให้เป็นข้อแรกที่ได้หลังจากรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้เลย มีหลายครั้งที่พ่อแม่มักคิดวิธีการแก้ไขปัญหาให้ลูกก่อนเสมอ โดยเฉพาะพ่อแม่บุญธรรม (ในเรื่อง) ที่มักจะมีวิธีคิดแทนให้เสมอ ทั้งๆ ที่เด็กบางครั้งก็ไม่ได้ต้องการวิธีแก้ไขปัญหาแบบที่ผู้ใหญ่คิด สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ไม่คิดแทนเด็กก่อน แต่ให้เข้าใจเด็ก” ในบางครั้งเราก็ควรลองให้เด็กแก้ไขปัญหากันเองไปก่อน เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ร่วมกับเขาว่าในคราวหน้าถ้าเกิดปัญหาต่างๆ เหล่านี้จะได้แก้แบบไหนต่อ

สอดส่องแบบเข้าใจ และสร้างมิติการรู้เท่าทันสื่อ

ในเรื่องจะมีช่วงหนึ่งที่พี่สาวคนโตนั้นแอบหลงรักชายหนุ่มคนหนึ่งในโรงเรียน และได้มีการส่งภาพโป๊กัน แต่ฝั่งพ่อแม่บุญธรรมเห็นเข้าซะก่อน จึงห้ามไว้ได้ทัน หรือแม้กระทั่งฉากที่น้องสาวคนสุดท้องเลียนแบบพฤติกรรมในละครโทรทัศน์ ทำให้เกิดอารมณ์ที่ฉุนเฉียวขึ้นทุกครั้งที่ตนเองไม่พอใจในสิ่งที่อยากได้

ทั้งสองอย่างนี้สะท้อนค่านิยมที่เยาวชนไม่มีภูมิต้านทานเรื่องการรู้เท่าทันสื่อจากพ่อแม่ หรือแม้กระทั่งอาจารย์ จึงทำให้เกิดปัญหาการใช้สื่อแบบผิดๆขึ้น หรือการเลียนแบบสื่อที่ไม่ถูกต้อง ทั้งหมดนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการร่วมกันพูดคุยกัน สร้างภูมิต้านทานที่ดีทั้งพ่อแม่และเยาวชนในการที่จะรู้จักเสพสื่ออย่างไรไม่ให้ตนเองถูกสื่อดูดเข้าไปซะเอง หรือแม้กระทั่งการไม่เลียนแบบสื่อที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน

ความรักที่แท้จริง ไม่ใช่ความรักแบบพ่อแม่ แต่คือ “ความรักแบบเพื่อนชีวิต”

จริงๆ นี่คือแก่นของเรื่องที่เราจะได้พบเห็นในภาพยนตร์ตลอดทั้งเรื่องเลย หลายๆครั้งที่ครอบครัวบ้านเรามักใช้ “อำนาจ” เข้าครอบงำ คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องทำให้น่าเคารพน่านับถือ ซึ่งอาจจะทำให้สถาบันครอบครัวตึงเครียดและเกิดความไม่ไว้วางใจกันจริงๆ ซึ่งต่อให้คุณให้ความรักแก่ลุกไปมากเท่าไหร่ มันก็อาจจะทำให้ระยะห่างของลูกมากขึ้นเท่านั้น ถ้าคุณให้แบบผิดๆกันอยู่

ความรักที่แท้จริง ก็คือการทำให้ลูกไว้วางใจกับพ่อแม่ ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อแม่โดยกำเนิด หรือพ่อแม่บุญธรรม สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้าถึงลูกให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่เพื่อจับผิดเพื่อทำโทษ แต่เพื่อทำให้เขาไว้วางใจและเข้ามาปรึกษาเรามากขึ้น

ใช่ครับที่บางครั้งพ่อแม่อาจจะต้องลดตัวลงมา เพื่อเล่นกับลูก เป็นเพื่อนให้ลูก แต่ถ้าการกะทำนั้นมันส่งผลดีต่อลูกในระยะยาว เหมือนในภาพยนตร์ คุณจะทำรึไม่? (ให้ไปลองดูภาพยนตร์แล้วลองคิดตามกันนะครับ)

ตัวอย่างภาพยนตร์ “Instant Family : ครอบครัวปุ๊บปั๊บ”

ภาพยนตร์เรื่อง “Instant Family :ครอบครัวปุ๊บปั๊บ” จะเข้าฉายในเมืองไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 มกราคม 2562 ทุกโรงภาพยนตร์ แต่ถ้าใครรีบชม สามารถชมรอบ Snack Premier ได้ในวันที่ 27 ธันวาคม 2561 หลัง 20.00 น.เป็นต้นไปที่โรงภาพยนตร์ในเครือ SF นะครับ

อย่าลืมไปชมแล้วเอากลับมาคิดกันเยอะๆนะครับ